TREZ Jewelry จัดเวิร์คช้อป The Journey of Pearl ว่าด้วยเรื่องราวการเดินทางของไข่มุก ผ่านมุมมองของนักอัญมณีศาสตร์ ที่เริ่มตั้งแต่ที่มาและเรื่องราวของไข่มุก, ประเภทและการประเมิณคุณภาพไข่มุก, วิธีการแยกไข่มุกธรรมชาติ ไข่มุกเลียนแบบ และการปรับปรุงคุณภาพ และวิธีการดูแลรักษาและข้อควรปฏิบัติในการสวมใส่เครื่องประดับไข่มุก ซึ่งเราขอนำมาบอกต่อ เวลาไปเลือกซื้อไข่มุกคราวหน้าจะได้ไม่โดนหลอก!


การแยกไข่มุกธรรมชาติและไข่มุกเลี้ยง
เนื่องจากไข่มุกธรรมชาติและไข่มุกเลี้ยงจะมีลักษณะทางกายภาพที่เหมือนกัน อาจสังเกตได้ยากด้วยตาเปล่า ดังนั้นนักอัญมณีศาสตร์จึงมีการศึกษาโครงสร้างดังกล่าวจากเครื่องมือขั้นสูง ผ่านเครื่อง X-ray ซึ่งใช้ตรวจดูลักษณะโครงสร้างภายในที่แตกต่างกันคือ ไข่มุกเลี้ยงจะพบเม็ด bead nucleus แสดงรอยต่อของนิวเคลียสและชั้นเคลือบมุก ในขณะที่ไข่มุกธรรมชาติจะพบว่าไม่มี bead nucleus และมีลักษณะการสร้างชั้นมุกคล้ายชั้นของหัวหอม


การประเมิณคุณภาพไข่มุก
- รูปร่างของไข่มุก: แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1) กลุ่มทรงกลม (spherical) ได้แก่ ทรงกลม (round) และ ค่อนข้างกลม (near round) 2) กลุ่มที่มีรูปทรงสมมาตร (symmetrical) คือกลุ่มที่มีรูปทรงไม่กลมแต่มีความสมมาตร ได้แก่ รูปไข่ (oval) รูปทรงกว้าง (button) และทรงหยดน้ำ (drop) 3) กลุ่มที่ไม่มีรูปทรง (baroque) และรูปร่างที่เป็นที่นิยมและมีค่ามากที่สุดคือ รูปทรงกลม
- สีของไข่มุก: มีองค์ประกอบทั้งหมด 3 ส่วน ได้แก่ 1) สีหลัก (Body Color) คือสีพื้นทั่วทั้งเม็ดของไข่มุก 2) สีเหลือบ (Overtone Color) คือสีเหลือบที่เคลือบอยู่บนสีพื้นผิวของไข่มุก 3) สีรุ้ง (Orient) คือ สีรุ้งที่อยู่ใต้ผิวมุก เกิดจากการแทรกสอดและเลี้ยวเบนของแสงผ่านชั้นต่างๆ ของผิวมุก โดยการประเมิณคุณภาพสีจะพิจารณาจากสีหลักและสีเหลือบเป็นหลัก โดยสีของไข่มุกมี 2 โทนคือ โทนร้อนและโทนเย็น ซึ่งโทนร้อนจะเป็นช่วงสี เหลือง ส้ม ชมพู และโทนเย็นจะเป็นช่วงสีเขียว ฟ้า ม่วง และเทา

- ความวาวของไข่มุก: คือความชัดเจนของแสงที่สะท้อนบนผิวมุก สังเกตจากความสว่าง ความคมชัด และความสม่ำเสมอของความวาว ไม่ด้าน มีทั้งหมด 5 ระดับ ได้แก่ 1) Excellent มีความวาวสะท้อนทั่วทั้งเม็ด 2) Very Good มีความสะท้อนแสงได้ดี 3) Good มีความสะท้อนของแสงน้อยลงมีความวาวอยู่ 4) Fair มีความสะท้อนของแสงที่ผิวน้อยและมีความวาวน้อยมาก และ 5) Poor คือการสะท้อนของแสงน้อยมากมีความด้านมากกว่าความวาว
- รอยนิ้วมือ: มุกแท้จะมีลักษณะผิวของรอยนิ้วมือของไข่มุกธรรมชาติ ซึ่งวัสดุเลียนแบบไข่มุกอาจเป็นได้ทั้งแก้วหรือพลาสติก โดยพื้นผิวไข่มุกเลียนแบบจะไม่พบลักษณะของรอยนิ้วมือ แต่จะพบลักษณะผิวเรียบหรือขรุขระคล้ายผิวเปลือกส้ม หรืออาจมีผิวลอกร่อนไม่สม่ำเสมอ โดยการสังเกตต้องใช้กล้องกำลังขยายขนาด 10x (loupe) หรือกล้องจุลทรรศน์อัญมณี (microscope) ในการสังเกตลักษณะดังกล่าว

วิธีดูแลรักษาไข่มุก
ไข่มุกเป็นอัญมณีที่มีความแข็งเพียงระดับ 3 เท่านั้นพื้นผิว จึงมีความเปราะบางและส่งผลให้เกิดรอยตามพื้นผิวของไข่มุกได้ง่ายกว่าอัญมณีทั่วไป จึงต้องดูและเป็นพิเศษตามขั้นตอนต่อไปนี้
- เตรียมผ้าสะอาดที่มีลักษณะนุ่ม เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นหากนำผ้าหยาบหรือแปรงมาใช้ในการทำความสะอาด
- นำผ้านุ่มชุบน้ำอุ่นให้ผ้ามีลักษณะหมาดและเช็ดทำความสะอาดผิวไข่มุกอย่างเบามือ หลังจากนั้นนำผ้าแห้งที่มีลักษณะนุ่มเช็ดให้แห้งสนิทอีกครั้ง
- ทิ้งเครื่องประดับไว้ให้แห้งสนิท จากนั้นเก็บใส่กล่องเครื่องประดับให้เรียบร้อย

TREZ Jewelry จัดเวิร์คช้อป The Journey of Pearl นำเสนอวิธีการแยกแยะไข่มุก การประเมินคุณภาพไข่มุก รวมทั้งวิธีการดูแลไข่มุกตามที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น อาจฟังดูซับซ้อนและเข้าใจได้ยากในช่วงแรกๆ แต่ถ้าพยายามศึกษาให้ดีก็จะพบว่าไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่มีเวลาจะมาทำความเข้าในเรื่องนี้ เราก็ขอแนะนำไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญซะ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาให้คุณได้มาก
ซึ่งคุณเยือนจันทร์ ชัยวัฒน์ ผู้เป็นเจ้าของร้าน TREZ Jewelry ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 บริเวณชั้น 1 สยามพารากอน พร้อมจะให้คำแนะนำกับคุณอย่างตรงไปตรงมา แถมยังมีห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจสอบอัญมณีทุกประเภทด้วย ฉะนั้นการซื้อสินค้าจากร้าน TREZ Jewelry จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีทางถูกหลอกอย่างแน่นอน!