วินเนอร์‘ วินชนะ พฤกษานานนท์ นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดในการผสมผสานการใช้ชีวิต การทำงาน ตลอดจนการสะท้อนแนวคิดนี้ไปสู่พนักงาน และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความสบาย เพื่อผลลัพธ์ของงานที่ดีกว่า ซึ่งนับว่ากำลังเป็นแนวคิดในการทำงาน ที่กำลังเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งองค์กร ผู้บริหาร รวมไปถึงพนักงาน และนี่คือที่มาที่ไปจากปากคำของคุณวินเนอร์
ความสบายในการทำธุรกิจคืออะไร?
จริงๆ แล้วหากจะบอกว่าสบายนั้น คงไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ในมุมมองผมความสบายในที่นี้มันคือ องค์รวมของการทำงานมากกว่า ที่เราเน้นความสบายใจ และความเข้าใจของการทำงาน ให้กับพนักงานของเรา เพื่อให้เขารู้สึกมีความสุข ไม่ฝืนที่จะทำมัน และด้วยความที่การบริหารจัดการองค์กรของเราไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ผมจึงเน้นการบริหารกับพนักงาน หรือหุ้นส่วนเหมือนแบบครอบครัว เน้นความเข้าใจ และความสบายใจในการทำงาน ซึ่งจะสะท้อนกลับมาที่ผลลัพธ์ของงานที่ดี
สิ่งที่คุณวินเริ่มต้นทำ…มาจากความชอบ และ Lifestyle เป็นหลักหรือเปล่า?
ใช่ครับ ความชอบสำคัญมากๆ เพราะถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ความรู้มาก แต่ความสนใจ และความหลงใหล จะสร้างแรงให้เราศึกษาเพื่อเข้าใจได้มากขึ้น จากสิ่งที่ผมเรียนมานั้นจะเห็นว่า จะไม่ได้ทำงานตรงสายซะทีเดียว แต่เราจะได้เรื่องของระบบความคิดมาต่อยอด เพราะฉะนั้นการต่อยอดแนวความคิดให้เป็นรูปร่างหรือธุรกิจนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้แรงเยอะพอสมควร ในการศึกษาหาความรู้ วิเคราะห์ ประเมินตลาดต่างๆ ซึ่งตรงนี้เองความชอบ และ Lifestyle ของเราจะทำหน้าที่ต่อไปว่า เราจะพาความคิดนี้ไปได้ถึงจุดไหน
อะไรคือ Key success ในการบริหารจัดการธุรกิจนั้นๆ?
ธุรกิจแต่ละตัวนั้นสามารถเชื่อมโยงกันได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อเราเจอความเชื่อมโยงนั้นแล้ว เราจะถอยมาทำในสิ่งที่เราถนัด และต่อยอดมันในมุมของเราครับ ซึ่งในส่วนของการบริหารจัดการในพาร์ทอื่นๆ ผมก็จะมีหุ้นส่วนและพนักงานที่ช่วยกันทำหน้าที่ ที่ต่างกันออกไปตามแต่ความถนัดและความชอบ ซึ่งเราจะพยายามหาคนที่มาร่วมธุรกิจในจุดที่เราขาด เพื่อให้เขาได้ทำงานได้อย่างไม่ฝืน
ความสำคัญของ Lifestyle และการทำธุรกิจสำหรับคุณวิน มีความสอดคล้องกันในมุมไหนบ้าง?
ผมชอบความเรียบง่าย ชีวิตเมืองมันยาก วุ่นวาย และทำให้เราสิ้นเปลืองทรัพยากร ไม่ชอบอยู่ในเมือง ไม่ชอบนั่งในออฟฟิศ ไม่ชอบห้องแอร์ ทุกวันนี้งานเราก็ยังต้องนั่งทำกับ laptop เยอะอยู่ก็จริง ไม่ว่าจะออกแบบเรือ ทำงาน graphic เขียน content ประชุมก็บ่อย แต่ด้วยเนื้องานที่หลากหลาย ก็ยังทำให้เรายังมีโอกาสได้ออกเรือบ้าง ไปอยู่เกาะบ้าง ได้อยู่ใกล้ธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์ออกมาได้ดีกว่าเดิม เหมือนเราสบายใจ และมีความสุขเพิ่มขึ้น
มีหลักในการบริหารอย่างไร ให้คนที่ทำงานรู้สึกสบายใจ และมีความสุขในการทำงาน?
ผมทำงานแบบดูแลกันเป็นครอบครัว เพราะเราให้ความสำคัญทุกคน งานหนักก็เหนื่อยด้วยกัน เวลาพักก็พักให้สุดด้วยกัน เช่น ทีมงาน Sunne Voyage ที่เป็นคนในพื้นที่ ก็จะเจอกันตลอดปรึกษากันได้ทุกเรื่อง คุยสารทุกข์สุขดิบ การพัฒนาชุมชนควรไปทางไหนเป็นอย่างไร จะทำอะไรกันต่อ จะคุยกัน ดูแลกันตลอด กับทีมงานที่เกาะมันนอกช่วงที่เราลงไปปรับพื้นที่ รวมถึงสร้างองค์ความรู้ในการดูแล อนุรักษ์พื้นที่ทางทะเล เพื่อสร้างทัศนียภาพที่สวยงามให้กับเกาะ ผมก็จะลงไปเก็บขยะ ลุยกับคนงานทุกวัน ทำกับเขา สนุกกับเขา เหนื่อยด้วยกัน ให้ทุกๆคนเห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นคืออะไร เรามีความสุขกับมัน ค่อยๆ สร้างความเข้าใจจนทุกวันนี้ทีมงานทุกคนก็สัมผัสได้ถึงตรงนี้ และมีความสุขในการทำงาน เพราะสิ่งที่เราทำมันดี กับทั้งธุรกิจ ธรรมชาติ และตัวของทุกๆ คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน
บริหารจัดการเวลาการทำงาน การใช้ชีวิตอย่างไร?
การทำงานและการใช้ชีวิตของผม มันผสมผสานกันทั้งหมด คือเราสามารถทำงานและใช้ชีวิต และทำในสิ่งที่เราชอบไปได้พร้อมๆ กัน แต่ในมุมของการจัดการจริงๆ คือ การแพลนในแต่ละวันโดยแบ่งสัดส่วนให้มีความยืดหยุ่นของงาน คือไม่ fix ตายตัวจนทำให้กดดันตัวเองมากเกินไป ซึ่งในตัวการงานแต่ละงานนั้น เราจะพยายามจัดการให้เป็นระบบ และเป็นแพทเทิร์นที่ทำให้เราทำงานได้คล่องตัว เช่น รีสอร์ท ผมจะแพลนแล้วว่าในช่วงเช้าผมจะทำการเดินรอบเกาะ ดูความเรียบร้อย ซึ่งในการสำรวจรอบๆ นั้นเอง มันจะมีสิ่งที่ต้องทำในงานนั้นอยู่อีกเป็นลำดับ
การใช้ชีวิตและการทำงานในแบบที่เราเป็นนั้นสอดคล้องกันอย่างไร?
สำหรับผมมันคือความสำคัญหลักๆ ในการเลือกสิ่งที่ผมทำเลย คือผมให้ความสำคัญกับความสุข และสบายใจในการใช้ชีวิตและการทำงาน เพราะการที่เราทำอะไรแล้วฝืนทำ หรือทำมันอย่างไม่มีความสุข มันจะทำออกมาได้ไม่ดีจริงๆ ยิ่งหากเราชอบ หรือต้องทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยแล้ว เวลาในการใช้ชีวิตของเรามันจะน้อยลง เช่น เราแบ่งเวลาทำงาน แบ่งเวลาใช้ชีวิตส่วนตัว ทำในสิ่งที่ชอบ หากเราสามารถเลือกสิ่งๆ นั้นมาเป็นงานที่เราสามารถทำได้ มันจะรู้สึกเหมือนกับเราไม่ได้ขาดการใช้ชีวิตไป
แต่จริงๆ แล้วความสบายในการทำงาน และใช้ชีวิตมันไม่ได้สบายไปในทุกๆ เรื่อง หรือทุกๆ มุม เราเจอปัญหาในการทำธุรกิจไม่ต่างกับผู้ประกอบการอื่นๆ แต่หากเราเริ่มต้นในสิ่งที่เราชอบ และเป็นตัวเรา ผมเชื่อว่าปัญหาที่เกิดอย่างน้อยที่สุด มันจะไม่บั่นทอนให้เราท้อ หรือเลิกทำมัน เพราะสิ่งที่เราทำนั้นมันคือความสุขของเราตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มทำมันครับ วินเนอร์‘ วินชนะ พฤกษานานนท์ กล่าวทิ้งท้าย