SangSom MOONLAB ในยุคที่คนกรุงเทพฯ ต้องการ Public space มากขึ้นเห็นได้จากงานอิเวนต์ที่จัดขึ้นในทุกย่าน ไม่ว่าจะงานเกี่ยวกับ อาร์ต ดนตรี หรือ ดีไซน์ ก็มักจะมีคนให้ความสนใจเข้าร่วมอย่างล้นหลามจนถึงขั้นมีการนิยามกันว่า “กรุงเทพฯ เมืองคอนเสิร์ต”!! “แสงโสม” ในฐานะที่เป็นแบรนด์ที่มุ่งมั่นที่จะทำให้ศิลปะเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ จึงสนับสนุนงานศิลปะและงานดนตรีมาโดยตลอด จนเป็นที่ประจักษ์ผ่านงานอีเวนต์ งานอาร์ต และงานดนตรี ที่ประสบความสำเร็จมาหลายครั้ง เกิดเป็นฐานแฟนจำนวนนับแสนคนที่เฝ้ารองานทุกปี
โดยครั้งนี้ แสงโสม ได้กลับมาสร้างปรากฏการณ์ความเป็นแลนด์มาร์กงานอาร์ตปาร์ตี้แห่งปีอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกคราว ด้วยความตั้งใจอยากเพิ่มพื้นที่ Art Space ที่เข้าถึงง่ายให้คนกรุงเทพฯ จนเป็นที่มาของอิเวนต์แห่งปีของแสงโสมกับงาน SangSomMOONLAB แลนด์มาร์กที่จะพาทุกคนสัมผัสประสบการณ์ Immersive Art และ งานดนตรี ได้มาเจอกันในโลเคชันที่อาร์ตที่สุดของชาวกรุงฯ บนชั้น Rooftop ของ River City Bangkok ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมรวมศิลปินตัวท็อปมาจัดให้ความบันเทิงถึง 10 วัน 10 คืน
โดยงานนี้ “แสงโสม” แบรนด์ที่มีความหมายว่า “แสงจันทร์” ได้ชูประสบการณ์เด่นที่แบรนด์ทำได้ดีมาตลอดนั่นก็คือการสร้างประสบการณ์ “อาร์ต” ที่มาในคอนเซปต์ “Escape to the moon” พาคนหนีโลกไปดวงจันทร์ เนรมิตเทคนิคการสร้าง Immersive Art พาทุกคนหลุดไปอีกมิติหนึ่งของโลกพระจันทร์.. ไฮไลท์ในงานเริ่มจากการยกพระจันทร์ยักษ์ Moon Landmark มาตั้งตระหง่านบนชั้นดาดฟ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เมื่อก้าวเข้าไปด้านในงานจะถูกโอบล้อมด้วย Visual หลากหลายงานอาร์ตที่ Mapping ล้อมรอบตัวเหมือนหลุดไปอีกโลก
นอกจากนี้ยังมีโซน Silent Disco โซนปาร์ตี้หูฟังให้ได้มันส์แบบเงียบๆ ชวนทุกคนหลบเสียงวุ่นวายมาสวมหูฟังสนุกกับเสียงดีเจแบบไม่รบกวนใคร ตอกย้ำความ Individual ของคนยุคนี้ ภายในงานทุกคนจะได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์แสงสีมากมายอย่าง โซน Moon Walk, Moon Warp ไปจนถึง Moon Bar ที่ยังคงความ Immersive ด้วยการเสิร์ฟเครื่องดื่มสุดล้ำแบบใหม่ ที่เรียกได้ว่าไม่ว่าจะหันกล้องไปทางไหนก็สวยอาร์ตสะกดทุกมุม
และ “แสงโสม” ยังตอกย้ำความเป็นแบรนด์เพื่อ “สิ่งแวดล้อม” ที่ให้ความสำคัญกับความ Sustainability ด้วยการจัดอิเวนต์ที่ “รักษ์โลก” แต่ไม่ฝืนธรรมชาติของสายตี้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้างานแบบ Paperless ให้แสตมป์แทนการรับริสต์แบนด์ อีกทั้งใครที่นำแก้วหรือบักเก็ตมาจากบ้านก็จะได้รับเครื่องดื่มแสงโสมไปเลยฟรีๆ และยังสนับสนุนให้คนนำบักเก็ตที่ได้จากในงานไปทำประโยชน์ปลูกต้นไม้ต่อได้ด้วย
เรียกได้ว่างาน SangSom MOONLAB ได้รับความสนใจอย่างมากจนบัตรขายหมดภายในไม่กี่วัน สร้างความคึกคักด้วยบัตรราคาเข้าถึงได้เพียง 315 บาท.. จนเกิดพื้นที่ใหม่ๆ ให้คนกรุงเทพฯ ได้มาเสพงานอาร์ต ตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืน ใครพลาดบัตรไปในปีนี้ จับตารอปีหน้า แสงโสม จะกลับมาพร้อมประสบการณ์อะไร คงต้องมาลุ้นกันต่อ




