#ขออวดหน่อย ช่วงนี้มีผิวหน้า ‘เต่งตึง‘ ขึ้นมาได้แบบปุบปับ! ชนิดหลับตาไปแป๊บเดียว ตื่นขึ้นมา ‘อ้าวตึงแล้ว!’ ได้ ก็ต้องยกความดีให้กับ ‘คุณหมอแพร‘ จาก Raparis Clinic ที่เนรมิตรความเยาว์วัยให้แบบฉับพลันทันใจนี่แหละ จนตอนนี้ไม่ว่าจะย่างเท้าไปที่ไหน ก็มักจะได้จะได้ยินคำถามซ้ำๆ จากคนรู้จักคุ้นเคยว่า “ไปทำอะไรมา…ทำไมหน้าตาดูสดใสขึ้นนนนนน!”

นับเป็นคำถามที่ชวนให้รู้สึกปลื้มปริ่ม แล้วเผลอยิ้มรับคำชมนั้นแบบไม่รู้ตัว! แต่ครั้นจะเอาแต่ยิ้ม แล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไร ก็ดูจะเป็นคนหวงวิชามากไปหน่อย จึงขอเก็บรายละเอียดโน่นนี่ มาแจกแจงที่นี่ แบบไม่หวงวิชากันเลยก็แล้วกัน!
ทำไม่ถึงเลือกมาอัพหน้าที่คลินิกแห่งนี้?
ขอออกตัวก่อนนะว่า แม้จะอยากดูอ่อนเยาว์ขนาดไหน ก็ไม่ใช่นคนที่จะรีบวิ่งแจ้นเข้าไปทำที่คลีนิคแห่งไหนก็ได้นะ! เห็นอย่างนี้ก็เลือกหมอเหมือนกัน เพราะนอกจากจะได้ยินข่าวเรื่องหมอเก๊อยู่บ่อยๆ แล้ว หมอเก่งๆ ที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆ นานานั้น ก็ใช่ว่าจะมีรสนิยมในเรื่องความสวยความงามตรงกับความต้องการของเราเสมอไป! ฉะนั้นจึงมีหมอผิวหนังอยู่ไม่กี่คนหรอกนะ ที่จะได้ปล่อยวิชากับผิวหน้าของเรา แม้ผิวหน้าจะห้อยย้อยจนแทบจะหล่นมากองอยู่บนหน้าอกอยู่แล้วก็ตาม!
แต่ที่เลือกมาอัพหน้าที่ Raparis Clinic แห่งนี้ ก็เพราะ…
- คุณหมอที่นี่ไม่เน้นเรื่องแฟชั่น จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีสันจมูกแบบยัดก้านคะน้า ปากอวบอิ่มเป็นกระจับแปะอยู่บนโครงหน้าที่ดูไม่เข้ากัน หรือมีผิวหน้าตึงเปรี๊ยะแต่ขยับไม่ได้แบบหุ่นยนต์
- คุณหมอที่นี่ชื่นชอบความงามตามธรรมชาติของคนแต่ละช่วงวัย และได้ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องศาสตร์และศิลป์ของใบหน้า พร้อมนำเทคโนโลยี่และนวัตกรรมความงามใหม่ๆ ที่ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากลมาใช้ในคลินิก
- คลินิกแห่งนี้มีเครื่องไม้เครื่องมือครบครัน แต่ไม่ได้ผูกขาดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งโดยเฉพาะ จึงมีเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ที่ได้การยอมรับจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทย
- คลีนิกแห่งนี้ดูโอ่อ่าหรูหรา สะอาดสะอาด และให้บริการแบบ Exclusive จริงจัง
ต้องทำอะไรบ้าง? กว่าจะได้ ‘หน้าใหม่‘ ที่ใครเห็นใครทัก!!!
เมื่อได้รู้จักและพูดคุยกับคุณหมอแพร หรือแพทย์หญิงรัตนนรี ทองนพคุณ อยู่ซักพักนึง พร้อมได้เห็นตัวอย่างผลงานอันน่าทึ่งที่ผ่านๆ มาของคุณหมอ ชีวิตที่เหี่ยวเฉาจากรอยตีนกาบนใบหน้า ก็ดูมีความหวังขึ้นมาทันที เปรียบได้ดั่งกระต่ายน้อยที่มองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยังไงยังงั้นเลย! แล้วตัดสินใจแบบปุบปับ เดินทางไปที่ราพาริส คลินิก ซึ่งอยู่แถวชัยพฤษ์ในวันเดียวกันนั้นทันที นับเป็นการตัดสินใจแบบรวดเร็วมาก ก็แหม…ความอยากจะเต่งตึงขึ้นมา ช้าแค่นาทีเดียวก็ไม่ได้!
ปัญหาที่นับเป็น ‘เคสยาก‘ ให้คุณหมอต้องรวบรวมพละกำลังในการงัดตำราขึ้นมาต่อสู้ก็คือ…โครงหน้าสูญเสียมวลกระดูกไปตามวัย แถมผิวหน้ายังไม่ค่อยมีคอลลาเจนมาช่วยพะยุงผิวไว้อีก ริ้วรอยเอย ความหย่อนคล้อยเอย จึงโชว์หน้ากันสลอนให้คุณหมอต้องเพ่งมองตาปริบๆ แต่ในระหว่างที่คุณหมอเพ่งพิเคราะห์อยู่นั้น เราแอบเห็นแววตาที่มุ่งมั่นของคุณหมอ! ซึ่งนั่นช่วยให้การนอนแผ่บนเตียงคนไข้อย่างยาวนาน เต็มไปด้วยความหวังและความมั่นใจว่า…จะต้องดูดีขึ้นอย่างแน่นอน!!!
สิ่งที่คุณหมอแพรหยิบยื่นให้ในวันนั้นคือ…
- ฉีดฟิลเลอร์เพื่อดูแลโครงสร้างใบหน้า ด้วยฟิลเลอร์จากอเมริกาจำนวน 4 CC
- ฉีดยกหน้าแก้ม และแก้ไขแก้มตอบด้วย VOLUMA จำนวน 3 CC (ข้างละ 0.5 CC) ขอบอกว่ากว่าจะสำเร็จในแต่ละข้างนั้น คุณหมอต้องใช้พละกำลังอย่างมาก เนื่องจากเรามีเส้นเอ็นบริเวณแก้มเหนียว (แต่แน่ใจว่าหนังยังไม่เหนียวนะ!) จึงทำให้เข็มแทงผ่านเข้าไปได้ยาก ซึ่งคุณหมอก็พร่ำเตือนอยู่ตลอดเวลาว่า “เจ็บหน่อยนะคะๆๆ” แต่คนโดนฉีดกลับไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย!
- เสร็จจากนั้นก็ย้ายมาเยียวยาความเหี่ยวย่นบริเวณคอต่อ ด้วยเครื่องยกกระชับ Ultraformer iii จำนวน 360 Shots เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณนั้นดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งคุณหมอบอกต้องใช้เวลาประมาณเดือนสองเดือนถึงจะเห็นผล แต่จริงๆ แล้ว ก็มองเห็นถึงความเรียบเนียนขึ้นในวันนั้นได้เลย! แม้จะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ เล็กน้อยตอนใช้เครื่องนี้ก็ตาม
ผลลัพธ์หลังทำทรีทเม้นท์ในวันนั้น
- หน้าดูยกกระชับขึ้นอย่างชัดเจน รอยยุบตื้นๆ บริเวณข้างแก้ม (หรือที่เรียกว่าแก้มตอบนั่นแหละ) ที่ทำให้ดูทรุดโทรมและแก่…หายไปทันที! โครงหน้าดูชัด ผิวหน้าดูอิ่มเอิบ และมีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย
- ริ้วรอยและรอยตีนกาที่ขยุ้มเป็นรอยพัดจีบบริเวณหางตา ก็ดูลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งร่องแก้มที่เคยทิ้งตัวดิ่งเป็นเส้นยาวๆ ก็ดูหดสั้นลงด้วย ช่วยให้ทั้งใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ตอนนี้ไม่ต้องหลบเลี่ยงการถ่ายรูปแบบ Close Up อีกต่อไป สามารถโชว์รูปถ่ายระยะใกล้ได้อย่างมั่นใจ แถมยังไม่ต้องใช้แอปแต่งรูปให้ใครๆ จับโป๊ะได้ด้วย! ซึ่งช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาให้ตัวเองได้อีกครั้ง
สรุปก็คือ…การอัพหน้าในวันนั้นช่วยให้ ‘ผู้สูงวัย‘ คนนี้ มีความรู้สึกดีๆ กับตัวเองขึ้นมาได้อีกครั้ง! ความอ่อนเยาว์ที่ได้มา ช่วยให้มีแรงใจเป็นอย่างมากในการตื่นขึ้นมาทุกๆ เช้าอย่างมีพลัง สามารถจ้องมองตัวเองในกระจกได้อย่างภาคภูมิใจ และสามารถลื่นไหลไปกับชีวิตได้แบบมีความสุข!
อานุภาพแห่ง ‘ความงาม‘ นั้นช่างยิ่งใหญ่นัก จึงอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ลุกขึ้นมาดูแลตัวเองแบบจริงๆ จังๆ กันซะเถอะ อย่าเพิ่งหมดหวังกับความทรุดโทรมของร่างกาย เราทุกคนไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ ล้วนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดูดีขึ้นได้ทั้งนั้น ซึ่งนั่นจะช่วยให้เรามี ‘พลังสำรอง‘ ในการดำเนินชีวิตต่อไป! ลองนัดเข้าไปพูดคุยหรือขอคำแนะนำกับคุณหมอก่อนก็ได้ที่…