‘Nothing’ เปิดตัวหูฟังไร้สาย โดยประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ในงานอัปเดตไตรมาส 1 ที่ถ่ายทอดสดจากโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น บริษัทได้ ประกาศว่าจะสร้างรากฐานใหม่ของชุดผลิตภัณฑ์เสียงของตนด้วยหูฟังไร้สายสองรุ่นใหม่ คือ Nothing Ear และ Nothing Ear (a) พร้อมกัน พร้อมทั้งประกาศว่าจะเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้โดยรวมด้วยการรวมเทคโนโลยี ChatGPT อันเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมลงในผลิตภัณฑ์เสียงและสมาร์ทโฟนของตน
ทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์จากการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ด้านการออกแบบและวิศวกรรมศาสตร์ในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์เสียงล่าสุดของ Nothing มอบประสบการณ์ผู้ใช้ระดับพรีเมียมสำหรับนักฟังเพลง ทั้งผู้มีความรู้ความสนใจด้านเสียงและผู้ฟังทั่วไป บริษัทได้ลดจำนวนผลิตภัณฑ์ในระบบเสียงของตนลง เพื่อให้โฟกัสที่สำคัญอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์ผู้ใช้งาน Nothing Ear ถูกออกแบบสำหรับนักฟังเพลงที่กำลังมองหาคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ในขณะที่ Nothing Ear (a) ถูกออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องเล่นเสียงที่ดีที่สุดในทุกวัน
คาร์ล เพ่ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งของ Nothing กล่าวว่า “’Nothing’ เปิดตัวหูฟังไร้สาย ด้วยการรวม ChatGPT กับหูฟัง Nothing รวมถึง Nothing Ear และ Ear (a) รุ่นใหม่ และกับ Nothing OS เราได้เริ่มต้นเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงเบื้องต้นแล้ว และยังมีการปรับเทคโนโลยีอีกมากมายที่กำลังจะตามมา โดยเรายังตั้งความหวังในการรับฟังคำติชม และเสนอแนะจากชุมชนของเราเช่นเสมอมา“
Nothing Ear – เสียงที่พัฒนาขึ้นอีกระดับ
“การปรับปรุงของ Ear (2) ทำให้ Ear รักษาและพัฒนาการออกแบบหูฟังที่โปร่งใสแบบเอกลักษณ์ ของ Nothing เพื่อให้ได้ประสบการณ์เสียงที่ดี ที่สุดของบริษัท โดยสร้างเสียงที่คมชัดมากขึ้นโดยไม่เสียคุณสมบัติการใช้งาน“
Sound
ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักฟังเพลงอย่างแท้จริง หูฟัง Nothing Ear ยกย่องระบบขับเคลื่อนที่ล้ำสุดของ Nothing จนถึงปัจจุบัน ด้วยชิปขับเคลื่อนแบบไดนามิกขนาด 11 มม. ที่ออกแบบมาด้วยวัสดุพรีเมียมอย่างเซรามิก ที่เลือกมาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้เสียงที่ แท้จริงและชัดเจนที่สุด รวมถึงไดอะแฟรมที่รับเสียงได้ลึกขึ้น และเสียงสูงที่ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ Nothing ได้ปรับปรุงการออกแบบห้องสอง ชั้นจาก Ear (2) โดยเพิ่มระบบระบายอากาศสองแห่งเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงการไหลของอากาศ ซึ่งทำให้เสียงเป็นชั้นความชัดเจนขึ้น
Ear รองรับ LHDC 5.0 และรหัส LDAC เพื่อการสตรีมของเสียงความละเอียดสูงผ่านบลูทูธ ซึ่งผลลัพธ์ท าให้ได้เสียงที่มีความบริสุทธิ์และมีพลัง Ear สามารถถึงได้สูงสุดถึง 1 แมกะบิตต่อวินาที 24 บิต/192 กิโลเฮิร์ตซ์ด้วย LHDC 5.0 (Low Latency High-Definition Audio Codec) และถึง 990 กิโลบิตต่อวินาทีและความถี่สูงสุดถึง 24 บิต/96 กิโลเฮิร์ตซ์ด้วย LDAC
Nothing’s Advanced Equaliser ให้ความสามารถในการปรับแต่งมากขึ้นผ่านอินเตอร์เฟซกราฟิกง่ายๆ บนแอปพลิเคชัน Nothing X ผู้ใช้สามารถ เพิ่มประสบการณ์การฟังด้วย Q Factor และการควบคุมความถี่ รวมถึงสร้างโปรไฟล์แยกต่างหากสำหรับแต่ละแนวเพลง เมื่อบุคคลสร้างโปรไฟล์ เสียงส่วนบุคคลบนแอป Nothing X ข้อมูลที่บันทึกไว้จะใช้งานในเวลาจริงเพื่อปรับระดับที่เท่าเทียมของอีควอไลเซอร์โดยอ้างอิงจากผลทดสอบ การได้ยิน
ANC
Ear มาพร้อมกับความสามารถในการป้องกันเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพและฉลาดที่สุดของ Nothing อัลกอริทึม Smart ANC ใหม่ตรวจสอบ การรั่วของเสียง ระหว่างหูฟัง และช่องหูและเพิ่มการยับยั้งเสียงรบกวนตามต้องการ นอกจากนี้ Ear ยังมี Adaptive ANC ซึ่งคำนึงถึงเสียงรบกวน พื้นหลังโดยอัตโนมัติและใช้หนึ่งในระดับการยับยั้งเสียงรบกวน 3 ระดับได้แก่ ระดับสูง ระดับกลาง และ ระดับต่ำที่ 45 เดซิเบล Ear มีการยับยั้ง เสียงรบกวนเกือบสองเท่าของ Ear (2) ด้วยช่วงความถี่ถึง 5000 เฮิร์ตซ์ Ear สามารถตรวจจับและลดเสียงที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ“
Performance
ไดร์เวอร์ที่กะทัดรัดของ Ear ที่ปรับแต่งเองอนุญาตให้มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น ให้ใช้งานได้ทรงพลัง และยาวนานยิ่งกว่าเดิม ด้วยอายุแบตเตอรี่ ที่ยาวนานขึ้น 25% โดยระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้สูงสุดถึง 40.5 ชั่วโมงหลังจากการชาร์จเต็มด้วยซองชาร์จหรือเล่นเพลง ต่อเนื่องได้ 8.5 ชั่วโมง ส าหรับการชาร์จพลังงานอย่างรวดเร็ว Ear รองรับการชาร์จไร้สายที่ 2.5W หรือสามารถชาร์จเร็ว 10 นาทีจะให้เวลาฟัง เพลงได้ถึง 10 ชั่วโมงด้วยซองชาร์จ
Ear มาพร้อมกับเทคโนโลยี Clear Voice ที่ทันสมัยที่สุดของ Nothing อย่างไรก็ตามด้วยการออกแบบไมค์ใหม่ที่ให้การขัดขวางน้อยลงเมื่อพูดใน การสนทนา มีการเพิ่มช่องทางอากาศเพิ่มเติมในขั้วเพื่อให้ลมเป็นทางเดินที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งลดการรบกวนลงถึง 60% เมื่อเปรียบเทียบกับ Ear (2)
ผู้ใช้สามารถสลับระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่นแบบเรียลไทม์ด้วยการเชื่อมต่อคู่ ด้วยโหมดLow Lag ที่ สามารถลดความล่าช้าของเสียงได้เมื่อ เปรียบเทียบกับการใช้งานปกติ ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ด้านอื่นๆ เพื่อเล่นเกมได้อย่างราบรื่น การควบคุมด้วยการแปลงสอดที่สามารถ ใช้งานได้เพื่อข้ามเพลง สลับระหว่างโหมดยับยั้งเสียงรบกวน และปรับระดับเสียง
Nothing Ear (a) – Let’s Play
ถูกสร้างขึ้นส าหรับทุกส่วนของทุกวัน หูฟัง Nothing Ear (a) เป็นส าหรับคนรักเสียงเพลง ด้วยดีไซน์ที่ดึงดูดความสนใจและเทคโนโลยีการยับยั้ง เสียงรบกวนที่มีพลัง ให้เป็นเพื่อนคู่ใจคุณในการฟังเพลงทุกวัน
Designed in London
ออกแบบในลอนดอน และมาในรูปแบบซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Ear (a) มีดีไซน์โปร่งใสของ Nothing แต่ก็เลือกทิศทางใหม่ด้วยดีไซน์บับเบิ้ลสดใส พร้อมกับการมาของสีใหม่ เหลือง ด้วยเส้นทางโค้งอ่อนและโครงสี่เหลี่ยมผาสูง Ear (a) รู้สึกดีทั้งในกระเป๋าและในฝ่ามือ
Hello, Yellow!
สีเหลืองของ Ear (a) เป็นผลิตภัณฑ์แรกของ Nothing ในสีที่ไม่ใช่ดำหรือขาว ไม่เพียงแต่สีเหลืองเข้ากับการออกแบบที่มีความขี้เล่นของ Ear (a) อย่างลงตัว แต่มันยังเป็นสีที่ตรงกับค่าความโปร่งใสของ Nothing หากคุณลองลบการสร้างสีสันออกไป จะพบว่าสีที่เหลือคือแม่สี ด้วยแนวคิดนี้ Nothing จึงขอนำเสนอ Ear (a) สีเหลือง – ผลิตภัณฑ์เสียงที่สดใสและโดนเด่นจัดจ้าน
ANC
ด้วยอัลกอริทึม Smart ANC ใหม่ของ Nothing Ear (a) ที่ตรวจสอบซีลภายในช่องหูเพื่อหาการรั่วของเสียง และเพื่อสร้างการยับยั้งเสียงรบกวน ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด จนได้เกิดเป็น Adaptive ANC ที่ตรวจจับสิ่งรบกวนในสภาพแวดล้อมของคุณและใช้การยับยั้งเสียงรบกวนในระดับสูง ระดับกลาง หรือระดับต่ำ ให้กับเสียงรบกวนที่รอบข้างของคุณ ที่ 45 เดซิเบล, Ear (a) มีการยับยั้งเสียงรบกวนเกือบสองเท่าของ Ear (2) นอกจากนี้, ด้วยช่วงความถี่สูงสุดถึง 5000 เฮิร์ตซ์, Ear (a) สามารถ ตรวจจับและลดเสียงที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Sound
ด้วยไดร์เวอร์ใหม่ของ Ear (a) สามารถส่งก าลังไฟฟ้าชั่วคราวมากขึ้นถึง 2.5 เท่าซึ่งใช้ประโยชน์จากการออกแบบดีไซน์ห้องสองชั้นที่เปลี่ยนเกม เป็นของ Nothing การเพิ่มก าลังไฟฟ้านี้ช่วยให้มีการแสดงเสียงเบสที่ลึกขึ้น และมีพลังมากขึ้น
เพื่อปกป้องรายละเอียดของเสียง Ear (a) ได้รับการรับรอง Hi-Res Audio สามารถสตรีมเสียงความละเอียดสูงผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธได้ที่สูงสุด 990 kbps ที่ 24 bit/96 kHz และเข้ากันได้กับรหัสความถี่สูง LDAC ส าหรับการสตรีมเสียงความละเอียดสูงผ่านการเชื่อมต่อบลูทูธที่มีการรองรับ อย่างแพร่หลาย
Performance
Ear (a) มีแบตเตอรี่ขนาด 500 mAh ในซองชาร์จและแบตเตอรี่ขนาด 46 mAh ในแต่ละหูฟังที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเพลงได้ถึง 42.5 ชั่วโมง หลังจากชาร์จเต็มด้วยซองชาร์จสำหรับการชาร์จพลังงานอย่างรวดเร็ว Ear (a) สามารถชาร์จเร็วในเวลาสิบนาทีและให้เพลงเล่นได้สูงสุดสิบ ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC และใช้ซองแบต)
สำหรับการสลับกิจกรรมอย่างง่าย Ear (a) สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันได้ โหมด Low Lag ของ Ear (a) ลดความล่าช้าของ เสียงเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานปกติขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ด้านอื่นๆ การควบคุมด้วยการแปลงสอดที่สามารถใช้งานได้เพื่อข้ามเพลง สลับระหว่างโหมดยับยั้งเสียงรบกวน และปรับระดับเสียง
ChatGPT Integration
น าโดยพลังการท างานอย่างตั้งใจที่จะก้าวไปข้างหน้าในการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในด้าน AI และอ านวยความสะดวกและเพิ่ม ประสิทธิภาพในประสบการณ์การใช้งาน Nothing ได้รวมหูฟัง Nothing และระบบปฏิบัติการ Nothing OS กับ ChatGPT เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ เข้าถึงข้อมูลทันทีจากอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้งานมากที่สุดได้โดยตรง ทั้งหูฟังและสมาร์ทโฟน
ผ่านการผสมผสานใหม่นี้ ผู้ใช้ที่มี Nothing OS เวอร์ชันล่าสุดและ ChatGPT ติดตั้งบนโทรศัพท์ Nothing ของพวกเขาจะสามารถใช้ฟังก์ชัน pinch-to-speak กับเครื่องมือ AI ที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกได้โดยตรงจากหูฟัง Nothing รวมถึง Ear และ Ear (a) ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ Nothing ยังจะปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ Nothing smartphone ใน Nothing OS โดยฝังจุดเข้าสู่ระดับระบบเพื่อ ChatGPT รวมถึง การแบ่งปันภาพหน้าจอและวิดเจ็ตแบบ Nothing-styled สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานนี้ โปรดเข้าชมเว็บไซต์ Nothing.tech
Pricing and Availability
‘Nothing’ เปิดตัวหูฟังไร้สาย ในประเทศไทย หูฟัง Ear และ Ear (a) จะมีราคาที่ 5,599 บาท และ 3,799 บาท ตามลำดับ และจะมีจำหน่ายก่อนใครในปริมาณจำกัด สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Carnival ในวันที่ 26 เมษายน การจำหน่ายทั่วไปจะเริ่มต้นในวันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม