ถึงแม้ ‘หน้ากากอนามัย‘ จะช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อ ‘COVID-19’ แต่ในขณะเดียวกัน หน้ากากที่ช่วยป้องกันโรคให้เราอยู่นั้น อาจก่อปัญหาผิวและสร้างความระคายเคืองให้เราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครต้องใส่เป็นเวลานานๆ ฉะนั้นถ้าใครไม่อยากมีปัญหาก็ลองใช้เคล็ดลับพวกนี้ดูนะ!
-
ล้างหน้าเมื่อถอดหน้ากากออกทุกครั้ง
แบคทีเรียจากมือของเราทำให้เกิดสิวบนใบหน้าได้ฉันใด แบคทีเรียบนหน้ากากผ้าก็ทำให้เรามีสิวได้ฉันนั้น ฉะนั้นเราจึงควรล้างหน้าหลังถอดหน้ากากอนามัยออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครมีแนวโน้มจะเป็นสิวได้ง่าย ถึงแม้ว่าบางครั้งเราจะไม่ได้รู้สึกว่าผิวหน้าสกปรกเลยก็ตาม
-
ซับหน้าให้แห้ง…ไม่ใช่ถูผ้าเช็ดหน้าไปมา!
หลังล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียแล้ว ก็ควรผึ่งผิวหน้าให้แห้งเองตามธรรมชาติ หรือใช้ผ้าขนหนูสะอาดๆ ซับเบาๆ ให้แห้ง โดยไม่ต้องถูผ้าขนหนูไปมา เพราะนั่นอาจทำให้ผิวหน้าเกิดอาการระคายเคืองได้
-
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง
ในการลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองให้เหลือน้อยที่สุดนั้น ผู้เชี่ยวชาญแนะให้ผิวคงความสะอาดเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งก็หมายความว่าเราไม่ควรใช้เครื่องสำอางใดๆ เวลาที่ต้องใส่ ‘หน้ากากอนามัย‘
-
เปลี่ยนหรือซักหน้ากากบ่อยๆ
ถ้าใครใช้หน้ากากแบบที่เป็นผ้า ก็ควรเปลี่ยนหรือซักทำความสะอาดบ่อยๆ โดยผู้เชี่ยวชาญแนะให้ถอดหน้ากากเป็นเวลาหนึ่งถึงสองนาทีทุกๆ ชั่วโมง เพื่อให้ผิวได้รับอากาศบริสุทธิ์บ้าง หลังจากนั้นก็อาจใช้หน้ากากอันเดิมได้ แต่ต้องไม่ลืมการถอดอย่างถูกวิธีด้วยล่ะ!
-
ควบคุมสิวด้วยการขัดผิวเป็นประจำ
โดยปกติแล้ว การเคลนซิ่ง โทนนิ่ง และการขัดลอกผิวนั้น จะช่วยป้องกันปัญหาสิวได้อยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าใครขัดลอกผิวเป็นประจำด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิคหรือกรดซาลิไซลิค ก็จะช่วยให้รูขุมขนไร้สิ่งอุดตัน ซึ่งถ้าใครมีปัญหาเรื่องสิว ก็ควรหาผลิตภัณฑ์ที่มีเบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ หรือกำมะถันมาใช้ซะ!
-
เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าอยู่เสมอ
ในการทำให้ผิวไร้อาการระคายเคืองนั้น เราก็ต้องไม่ทำการใดๆ ให้ผิวสูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติ หรือเกิดอาการแห้งกร้าน ฉะนั้นหลังทำความสะอาดผิวหน้าทุกครั้ง ก็ต้องไม่ลืมตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเบาบางทุกครั้ง ถ้าเลือกแบบที่มีกรดไฮยาลูรอนิคได้ก็จะยิ่งดี!
เครดิตรูป: Pinterest