การกลับมาเปิดให้บริการในครั้งนี้ ร้าน Gucci Emporium มาในรูปลักษณ์ใหม่ที่เชื้อเชิญและให้ความรู้สึกอันอบอุ่นและผ่อนคลาย ด้วยงานออกแบบและการตกแต่งภายในอันแสนประณีต ผนังด้านนอกร้านให้ความรู้สึกที่หรูหราด้วยการตกแต่งหินอ่อนอิตาลีในหลากหลายลวดลายและสีสัน ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อนเบลเยียมแบล็ค (Belgium Black), รอสโซ นโปเลียน (Rosso Napoleon), โรซา เดล การ์ดา (Rosa del Garda) และกาลากัตตา โอโร (Calacatta Oro) ที่นำมาตกแต่งในดีไซน์ที่ผสมผสานความสง่างามให้กลมกลืนกับสิ่งรอบตัวและขับให้งานตกแต่งด้านในร้านโดดเด่นยิ่งขึ้นภายในศูนย์การค้า The Emporium
นอกจากความหรูหราในสไตล์สมัยใหม่ที่มาจากวัสดุที่งดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้ว ยังมีความน่าสนใจในการเลือกใช้พื้นที่อย่างลงตัว เรียกได้ว่า ร้าน Gucci แห่งนี้เป็นส่วนผสมของแบบดั้งเดิมและความทันสมัย สอดคล้องกับแนวปรัชญาของความสง่างามและความทันสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของ Gucci และยังนับว่าเป็นคอนเซ็ปต์ที่เสริมให้ผลิตภัณฑ์ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย
บรรยากาศภายในร้านจะเน้นความสวยงามประณีต แต่มีลูกเล่นและความน่าตื่นเต้นด้วยวัสดุต่างๆ ที่เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น ลวดลายเรขาคณิตบนพื้นนั้นให้ความรู้สึกมีมิติไม่น่าเบื่อ และลงตัวเป็นอย่างดีกับพื้นไม้ปาร์เก้ที่เพ้นต์ด้วยมือ ความขัดแย้งของสิ่งที่ตรงกันข้ามกันแต่กลับเชื่อมต่อถึงกันได้นี้ ยังเห็นได้จากในส่วนอื่นๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนดิสเพลย์ และชั้นโชว์สินค้าทองเหลืองขัดเงา ที่ตัดกับงานตกแต่งด้วยผ้าซาตินสีทองเข้ม โต๊ะกลมที่วางไว้ข้างโต๊ะสี่เหลี่ยม โซฟา และเก้าอี้นวมบุกำมะหยี่สีน้ำทะเลดูหรูหรา รวมถึงพรมวินเทจสไตล์ตะวันออก ที่วางซ้อนกันเพื่อเพิ่มลูกเล่น
นอกจากนี้ในร้านยังจัดให้มีพื้นที่สำหรับเสื้อผ้า ready-to-wear โดยเฉพาะ ซึ่งมุมดังกล่าวถูกโอบล้อมอยู่ภายในอ้อมกอดแห่งทัศนียภาพอันงดงามของสวนเบญจสิริ จึงช่วยให้โซนนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าประทับใจอย่างคาดไม่ถึงและเป็นบรรยากาศเฉพาะตัวของ Gucci อย่างแท้จริง
การเปิด Gucci Emporium โฉมใหม่ในครั้งนี้ Gucci ยังได้นำผลงานชิ้นเอ็กซ์คลูซีฟ จาก archive ส่งตรงจากประเทศอิตาลีมาจัดแสดงให้ได้ชมแบบใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสไตล์วินเทจคลาสสิค Jackie and Bamboo ที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ Gucci ภายใต้มิติร่วมสมัย ตลอดจนชิ้นอื่นๆ อีกมากมายจากคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุดของอเลสซานโดร มิเคเล (Alessandro Michele)
นอกจากนี้ยังมีผ้าพันคอไหมเนื้อนุ่มแสนประณีต ตกแต่งด้วยลายพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Gucci ที่จะมาอวดความงามพร้อมกับของชิ้นอื่นๆ ที่ใช้ในการเดินทางจากทศวรรษ 60 และ 70 อาทิเช่น กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง และกระเป๋าเดินทางแบบสะพาย เป็นต้น นอกจากนี้ยังขอเชิญชวนทุกท่านให้เดินไปตามแคตวอล์กขนาดย่อม ที่ตกแต่งด้วยซุ้มโค้งประดับไฟ ซึ่งส่องนำทางเข้าสู่พื้นที่จัดแสดงงานด้านในร้าน ท่ามกลางลวดลายพรรณไม้ผลิบาน ที่ตัดกับพื้นสีทึบ ร่วมกับการตกแต่งทางเดิน และแท่นจัดแสดง ที่จะช่วยให้ผู้เยี่ยมชมดื่มด่ำกับบรรยากาศได้อย่างเต็มที่
ด้วยความมุ่งมั่นของ Gucci ในการส่งเสริมแนวคิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีประหยัดพลังงานใน Gucci สโตร์ทั่วโลก แฟล็กชิปสโตร์ Gucci โฉมใหม่แห่งนี้จึงได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED (ความเป็นผู้นำด้านการออกแบบ ที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม) รวมทั้งยังใช้ไฟ LED และติดตั้งระบบ Building Management System (BMS) เพื่อช่วยในการคอยติดตามและส่งเสริมประสิทธิภาพ ในการใช้พลังงานอีกด้วย













