ฝันเห็นผี แล้วต้องต๊กใจตื่น! นับเป็นความลี้ลับที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของมนุษย์อย่างหนึ่งเลยนะ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เวลาห่มผ้านอนแล้วจิตใจของเรากลับสร้างประสบการณ์ที่ดูเหมือนราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งประสบการณ์พวกนั้นคืออารมณ์ความรู้สึกที่อยู่ในก้นบึ้งของจิตใจเรานั่นเอง ซึ่งมีตั้งแต่ความความหลงใหลได้ปลื้มแบบล้นปรี่ ไปจนถึงความหวาดกลัวสุดขีด! ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ยังอธิบายไม่ได้เลยนะ บางครั้งจึงชวนให้สงสัยว่า…ภูติผีต่างๆ สามารถติดต่อเราผ่านความฝันได้จริงมั้ย?
ถึงแม้เราจะไม่มีความเชื่อในเรื่องของวิญญานหรือภูติผี แต่เราก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าความฝันเช่นนั้นหมายถึงอะไร? ในช่วงที่เกิดความฝันนั้น เราจะละวางจิตใต้สำนึกและความคิดแบบมีเหตุมีผลเอาไว้ จิตใจของเราจึงเปิดรับความเปรียบเทียบและสัญญลักษณ์ทางวิญญานได้มากขึ้น ส่งผลให้เวลาที่เราฝันเห็นผีจึงเป็นอะไรที่น่ากลัวอย่างมาก ซึ่งจิตใต้สำนึกอาจพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับเรา ซึ่งถ้าเรานำมาตีความฝันหรือผ่านกระบวนการสะท้อนตัวตนซะนิดหน่อย ก็อาจจะช่วยให้เราพบ ‘ความหมาย‘ จากความฝันเหล่านั้นก็ได้
โดยผู้เชี่ยวชาญในเรื่องความความฝันได้อธิบายเอาไว้ในหนังสือเรื่อง Night Vision: A Field Guide to Your Dreams ว่า ‘การฝันเห็นผีมักจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวหรือธุรกิจที่ยังทำไม่สำเร็จ จึงพยายามจะขุดลึกลงไปเพื่อค้นหาว่า ยังมีความวิตกกังวลอะไรที่เป็นตัวถ่วงจิตใต้สำนึกของเราอยู่ ซึ่งบางครั้งความฝันเกี่ยวกับภูติผีปีศาจก็ทำให้รู้สึกเหมือนจริงได้มากกว่าความฝันโดยทั่วๆ ไป ฉะนั้นถ้ามีภูติผีเข้ามาปรากฎกายอยู่ในความฝันของใครเข้าล่ะก็ จดบันทึกความฝันนั้นเอาไว้ซะ เนื่องจากบุคคลที่มีพลังจิตและผู้เชี่ยวชาญด้านความฝัน ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า การฝันเห็นผีนั้นมีความหมายอันทรงพลังและเป็นไปได้ ‘จริง‘ ซ่อนอยู่!
ฝันเห็นผี…ภูติผีปีศาจเข้ามาหาเราทางความฝันได้จริงมั้ย?
ถึงแม้การฝันเห็นฝีอาจจะเป็นแค่สัญญลักษณ์ของของอะไรบางอย่าง ที่จิตใจของเราพยายามจะสื่อให้เรารู้ว่า เราจำเป็นต้องหาผลสรุปของเรื่องราวที่เรายังทำไม่สำเร็จ แต่บุคคลที่มีพลังจิตเชื่อว่า ภูติผีปีศาจได้เข้ามาติดต่อกับเราทางความฝันจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเรารู้สึกเหมือนเกิดขึ้นจริงกว่าที่เคยเป็น ฉะนั้นถ้าใครมีความฝันแบบนี้ ก็พึงสดับรับรู้เอาไว้ว่า…ดวงวิญญาณอาจกำลังเข้ามาบอกกล่าว ส่งคำเตือน หรือแค่ติดต่อพูดคุยกับเราเท่านั้น!
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังจิตยังเขียนบอกเอาไว้ในหนังสือเรื่อง The Glitter Cast ว่า ‘การฝันเห็นภูติผีที่เราไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิตจริง อาจเป็นการบ่งบอกว่ามีดวงวิญญานอาศัยอยู่ในบ้านของเราก็ได้‘ ซึ่งถ้าภูติผีมีอะไรจะบอก เราก็สามารถเปิดใจรับข่าวสารผ่านทางความฝันได้ดีกว่าในขณะที่กำลังตื่นอยู่ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราเจอผีในขณะที่ยังตื่นอยู่ เราก็คงตกใจกลัววิ่งหนีกันตูดเปิด! มากกว่าจะมานั่งรอดูว่าผีจะพูดอะไรกับเรา
ถ้าใครได้เจอะเจอกับสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นดวงวิญญานผ่านทางความฝันล่ะก็ เรากำลังได้รับสัญญานอะไรดีๆ อยู่นะ ฉะนั้นลองพยายามหยิบยื่นความรัก…ไม่ใช่ความกลัวออกไป เพื่อส่งสัญญานให้ดวงวิญญานเหล่านั้นรับรู้ได้ว่า เรายินดีต้อนรับให้พวกเขาเข้ามาในบ้าน แต่ถ้าใครตื่นขึ้นมาแล้วพนมมือปากคอสั่น บอกให้ ‘ไปอยู่ที่ชอบๆ เถอะ‘ ก็เท่ากับเป็นการตัดสัญญานการเชื่อมต่อ ส่งผลให้ดวงวิญญานเหล่านั้นไม่กลับมาเข้าฝันคุณอีก
เครดิตรูป: Pinterest, Johnkenn, Julebestiariet