EXTRAORDINARY LIGHTS ได้แรงบันดาลใจมาจากปรากฎการณ์ที่ชวนหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นภาพแสงไฟสีเหลืองทองจากโคมที่ลอยละล่องในช่วงเทศกาล ปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือแสงออโรร่า ที่พลิ้วไหวพาดผ่านท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ หรือแม้แต่การบอกลาด้วยฉากหลังอันน่าจดจำของทะเลดาว ที่ระยับระยิบเกลื่อนฟากฟ้า และนี่คือคอลเลคชั่นจิวเวลรี่ชั้นสูง จาก เพียเจต์ (Piaget) ที่เผยโฉมอย่างยิ่งใหญ่ระหว่าง Paris Couture Week เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งความรื่นรมย์ร่วมกันของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้
Chapter 1 – FESTIVE LIGHTS
สัญญาณแห่งการเฉลิมฉลองกำลังเริ่มต้นในอีกไม่ช้า เมื่อแสงแดดที่สร้างความอบอุ่นระหว่างวันค่อยๆ จางหาย ขณะที่ท้องฟ้ายามเย็นเริ่มนับถอยหลังสู่ห้วงรัตติกาล ก่อนถูกแทนที่ด้วยความสว่างไสวชั่วพริบตา ด้วยแสงไฟสีเหลืองทองจากโคม ที่ลอยละล่องอย่างอิสระ เฉกเช่นความรู้สึกอิ่มเอมของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้ ที่ได้มาแบ่งปันและส่งมอบความสุขในค่ำคืนนี้ และนี่คือช่วงเวลาอันแสนวิเศษ ที่ถูกนำมาร้อยเรียงเป็นชิ้นงานใหม่ภายใต้ธีม FESTIVE LIGHTS ที่มีไฮไลต์สำคัญ อาทิ

The Blissful Lights Set
โมเมนต์ขณะแสงไฟสีเหลืองทองจากโคมค่อย ๆ ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า คือภาพความประทับใจที่เมซงหยิบมาถ่ายทอดลงบนชิ้นงานเซ็ตนี้ โดยเน้นการรังสรรค์ผ่านประกายงามของเพชรสีขาวและสีเหลืองเป็นหลัก

The Blazing Night Set
ภาพเปลวไฟที่ลุกโชติช่วงในโคมไฟสีแดงสไตล์ย้อนยุค ขณะถูกปล่อยขึ้นเหนือท้องฟ้าอันมืดมิด คือแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องประดับเซ็ตนี้
Chapter 2 – MAGICAL LIGHTS
เพลิดเพลินกับการแสดงแสงสีที่น่าทึ่งของธรรมชาติอย่าง ออโรร่า เมื่อท้องฟ้าถูกจำลองเป็นโรงละครขนาดใหญ่ ขณะที่ม่านแสงที่พลิ้วพาดผ่านท้องฟ้ายามดึก กำลังเปิดฉากขับกล่อมค่ำคืนให้มีชีวิตชีวาอย่างเงียบ ๆ และนี่คือผลงานไฮไลต์ในธีมนี้

The Magical Aurora Set
ราวกับหยิบเอาปรากฏการณ์แสงเหนือมาใส่ไว้ในเซ็ตนี้ อัญมณีที่นำมาบอกเล่าจึงเป็น 2 สีหลัก อย่าง สีเขียว และสีขาว เริ่มจากสร้อย โดยไฮไลต์อยู่ที่อัญมณีเม็ดใหญ่สุดอย่าง มรกตโคลัมเบีย น้ำหนัก 16.84 กะรัต ถูกนำมาจัดเรียงอย่างโดดเด่นกลางตัวเรือน ซึ่งอัญมณีสีเขียวชนิดนี้ขึ้นชื่อว่าหายากมากตามธรรมชาติ
Dancing Aurora
เรือนเวลาลิมิเต็ด อิดิชั่นที่ผลิตเพียง 8 เรือน มาพร้อมกลไกที่บางสุดขั้ว (Ultra-thin) พ่วงด้วยฟังก์ชั่นฟลายอิ้ง ตูร์บิญองที่สลับซับซ้อน โดยเพียเจต์ถือเป็นแบรนด์ที่เลื่องชื่อในแง่การผลิตกลไกที่บางพิเศษมาอย่างยาวนานนับแต่ยุคทศวรรษที่ 1960 ทั้งยังคงท้าทายขีดจำกัดและนำเสนอแนวคิดนอกกรอบที่ไม่ซ้ำใคร
Magical Aurora – Voluptuous Borealis
นาฬิกาไฮจิวเวลรี่ที่หยิบสีสันอันน่าทึ่งของออโรร่ามาถอดรายละเอียดไว้บนข้อมือได้อย่างครบองค์ประกอบ โดยบ่งบอกสไตล์ของเมซง ผ่านการนำเสนอเอกลักษณ์ของอัญมณีล้ำค่า บนตัวเรือนแบบอสมมาตรได้อย่างวิจิตรบรรจง อีกหนึ่งผลงานที่สะท้อนถึงเสรีภาพในการสร้างสรรค์ และเปลี่ยนนิยามของนาฬิกาไปโดยสิ้นเชิง

The Gloaming Illuminations Set
แท้จริงแล้วแสงของออโรร่าไม่ได้มีแต่สีเขียว แต่ความมหัศจรรย์นี้ยังสามารถเปล่งแสงออกมาเป็นสีลูกกวาด อย่างชมพู ม่วง และน้ำเงิน ได้อีกด้วย และนี่คืออีกมุมมองที่เมซงเลือกมาเป็นกรอบในการสร้างสรรค์เครื่องประดับในเซ็ตนี้
Chapter 3 – INFINITE LIGHTS
เมื่อแสงที่วูบไหวค่อย ๆ จางหายไป หมู่ดาวกลับมาส่องประกายระยิบระยับอีกครั้ง ก่อนที่อีกไม่นานท้องฟ้าจะเปลี่ยนสี ส่งสัญญานแห่งการเริ่มต้นใหม่ในเช้าวันถัดไป

The Extraordinary Lights Set
ชิ้นโดดเด่นแห่งปีต้องยกให้ สร้อยจิวเวลรี่ชุด Extraordinary Lights ผลงานสร้างสรรค์ที่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 450 ชั่วโมงในการผลิต โดดเด่นด้วยเพชรสีเหลืองทรงหมอนในเฉด fancy vivid ที่ผ่านการเจียระไนใหม่จากเมซงเพื่อให้การเล่นแสงออกมาแบบไร้ที่ติ ทั้งยังได้น้ำหนัก 8.88 กะรัตตามที่ต้องการ
Celestial Dance Watch
เรือนเวลาที่จำลองความน่าหลงใหลของผืนฟ้ายามค่ำคืน อีกความทรงจำอันแสนประทับใจร่วมกันของเหล่าเพียเจต์ โซไซตี้ นำเสนอผ่านเทคนิคมาร์เก็ตทรีอันไร้ที่ติของศิลปินชื่อดัง โรส ซูนีเยร์ (Rose Saunier)
ทั้ง 3 ธีมคอลเลคชั่นภายใต้คอลเลคชั่นนี้ เป็นเครื่องสะท้อนถึงความทะเยอทะยาน แนวคิดนอกกรอบ ที่หลอมรวมเข้ากับทักษะอันเชี่ยวชาญของเมซงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ผลลัพธ์แต่ละชิ้นจึงสัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจ และสร้างความประทับใจแก่ผู้สวมใส่ได้อย่างโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
สัมผัสเรือนเวลาและเครื่องประดับชั้นสูงจากเพียเจต์ (Piaget) ได้แล้ววันนี้ ณ เพียเจต์ บูติค โดย เอส ที ไดเมนชั่น ชั้น M สยามพารากอน โทร. 02-610-9678