‘เซ็ตติ้ง สเปรย์‘ เมื่อสิบปีก่อนยังไม่มีนะ! จำได้ว่าเครื่องสำอางชิ้นแรกที่ควักเงินซื้อมาใช้เอง นอกเหนือจากมอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดด ก็คือ ‘Dr. Feelgood Mattifying Balm’ ของเบเนฟิต เนื่องจากเป็นคนหน้ามันมาก มีเหงื่อไหลไคลย้อยอยู่เป็นประจำ การใช้ครีมรองพื้นหรือแป้งทาหน้าจึงกลายเป็นภาระยุ่งยาก เคยกัดฟันลองใช้อยู่หนสองหนก็ต้องเลิกลา เพราะคอเสื้อเชิร์ตและผ้าเช็ดหน้าจะเต็มไปด้วยคราบแป้งสีน้ำตาล ผิวหน้าก็เป็นด่างๆ ดวงๆ ดูน่าเกลียดน่ากลัวมาก!
แต่พอมาเจอ ‘Dr Feelgood’ เท่านั้นแหละ ก็กลายเป็นไอเท็มเด็ดที่ไม่เคยห่างกายเลย แค่ใช้ฟองน้ำแตะเนื้อบาล์มมาตบลงบนผิวหน้าเบาๆ ความเงาความมันก็หายวับไปในพริบตา แล้วไม่ต้องมานั่งระวังคราบโน่นคราบนี่ด้วย นั่งหน้าแมตต์สวยๆ ได้แบบสบายๆ แต่ตอนนี้ไม่มีให้ใช้แล้วนะ เพราะเค้าพัฒนาจนกลายเป็นเจลควบคุมความมัน และไพรเมอร์หลากหลายสูตรในชื่อ the POREfessional ที่ดังเปรี้ยงปร้างตั้งแต่เปิดตัวเมื่อสิบปีก่อนนั่นแหละ!
และตอนนี้ก็มีไอเท็มใหม่มาให้คว้าใส่กระเป๋าอีกแล้ว! the POREfessional Super Setter เป็นเซ็ตติ้ง สเปรย์ตัวแรกในประวัติศาสตร์เบเนฟิต ที่ใช้เวลาในการคิดค้นนานถึง 4 ปี ที่นอกจากจะมีส่วนผสมเริ่ดๆ ที่ช่วยเบลอรูขุมขน และดูดซับความมันบนใบหน้าแล้ว ยังช่วยล็อคเมคอัพให้หน้าเป๊ะปังได้นานถึง 16 ชั่วโมง และกันน้ำกันเหงื่อได้แบบสบายๆ
ที่ชอบมากๆ ก็คือเค้าใช้หัวสเปรย์ชนิดพิเศษ ที่ช่วยควบคุมละอองสเปรย์ให้มีขนาดเล็กจิ๋ว ชนิดที่ฉีดพรมลงบนผิวหน้าแล้วไม่รู้สึกมีหยดน้ำเกาะ แต่มีความรู้สึกเหมือนมีผ้าแพรเนื้อบางเบาคลี่คลุมผิวหน้าเอาไว้ แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่นๆ ด้วย ตอนนี้แม้จะอยู่แต่ที่บ้านก็ใช้ทุกวันเลย! ซึ่งมีวิธีใช้ให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่อยู่หลายวิธีเลยนะ อย่างเช่น…
1. ใช้แทนไพรเมอร์
ถึงแม้เซ็ตติ้งสเปรย์ขวดนี้จะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังแต่งหน้าเสร็จ แต่เราสามารถใช้ฉีดพรมบนผิวหน้า เพื่อช่วยเตรียมผิวให้สามารถยึดเกาะเบสเมคอัพได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยอำพรางรูขุมขนให้ดูเล็กลง จึงสามารถใช้เป็นไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอผิวได้เป็นอย่างดี โดยแค่ฉีดลงบนผิวหน้าที่ทำความสะอาดเสร็จใหม่ๆ และลงมอยส์เจอไรเซอร์เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ปล่อยให้แห้ง แล้วจึงค่อยลงครีมรองพื้น
2. ช่วยซ่อมคอนซีลเลอร์แห้งแตก
คอนซีลเลอร์เนื้อแน่นๆ มักจะมีปัญหาแตกเป็นร่องบริเวณใต้ตาได้ง่าย ฉะนั้นถ้ามีปัญหานี้เกิดขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจ แค่ฉีดเซ็ตติ้งสเปรย์ลงบนแปรงทาคอนซีลเลอร์ แล้วนำไปเกลี่ยคอนซีลเลอร์ให้ดูนวลเนียนตามเดิม ซึ่งจะใช้ได้ดีเป็นพิเศษ ถ้าใครมีผิวแห้งหรือไม่ชอบลงแป้งฝุ่นทับ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมให้เครื่องสำอางอยู่ในที่ในทาง โดยไม่ต้องเติมลงไปอีกให้หนาหนักมากขึ้น
3. ใช้ตรึงเมคอัพแบบผง
ผงพิกเม้นท์มักจะช่วยสร้างความโดดเด่นบนเปลือกตาได้อย่างเป๊ะปัง แต่มักจะสร้างปัญหาหลุดร่วง ให้ต้องเสียเวลาในการแต่งเติม แต่เราสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายๆ โดยฉีดเซ็ตติ้งสเปรย์ลงบนพู่กันแบน ก่อนจะใช้จุ่มลงในผงพิกเม้นท์ วิธีนี้จะช่วยผงสีติดอยู่ที่ขนพู่กัน โดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะหลุดร่วง จากนั้นก็นำไปกดลงบนเปลือกตาเพื่อสร้างควาาวิบวับได้ตามต้องการ
4. ใช้เพิ่มความเข้มให้อายแชโดว์
การใช้พู่กันชื้นๆ ในการแต่งเติมอายแชโดว์ จะช่วยให้อายแชโดว์มีสีที่เข้มขึ้นได้ โดยฉีดเซ็ตติ้งสเปรย์ลงบนพู่กัน แล้วนำไปแกว่งไกวในอายแชโดว์ ก่อนนำมาทาบนเปลือกตา วิธีนี้ใช้ได้ดีกับอายแชโดว์เนื้อชิมเมอร์ เพื่อแปรสภาพให้กลายเป็นเนื้อเมทัลลิค นอกจากนี้ยังใช้เทคนิคเดียวกันในการทำให้อายแชโดว์กลายเป็นอายไลเนอร์ที่ติดตรึงได้อย่างยาวนาน
5. ใช้เซ็ตเครื่องสำอาง
เราสามารถใช้เซ็ตติ้งสเปรย์เติมความสดใสให้กับผิวหน้า และช่วยตรึงเครื่องสำอางให้อยู่ในที่ในทางได้อย่างยาวนานถึง 16 ชั่วโมง จึงเหมาะจะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้างหลังแต่งหน้าเสร็จ โดยฉีดพรมลงบนผิวหน้าให้ทั่ว นอกจากนี้ยังช่วยคืนความสดใสในระหว่างวัน โดยไม่ทำให้เครื่องสำอางดูเลอะเลือนด้วย
‘เซ็ตติ้ง สเปรย์’ the POREfessional Super Setter มีวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2564 @ เคาน์เตอร์เบเนฟิตในเซโฟรา และในวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 @ เคาน์เตอร์เบเนฟิตในห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลและเดอะมอลล์ ราคา 1,180 บาท