กลับมาอีกครั้ง! กับงาน Awakening Bangkok ปีนี้จัดใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘RE:VIVE’ ฟื้นคืนชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน ด้วยสีสันและแสงไฟโดย Time Out Bangkok ผู้จัดงาน ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ แกร็บฟู้ด และบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 3 เมษายน 2565
โดยขยายพื้นที่จัดแสดงครอบคลุมย่านเก่าของกรุงเทพฯ มากขึ้น ตั้งแต่เจริญกรุง–ตลาดน้อย ไปจนถึงซอยนานา เยาวราช กับการแสดงประติมากรรมแสงไฟกว่า 52 ชิ้นงาน 31 จุดแสดง โดยศิลปินไทยและต่างชาติ ที่กระจายตัวสร้างแสงสว่างเพื่อ ‘ฟื้น‘ ย่านเก่าให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมชมกิจกรรมไฮไลต์เด็ดๆ เอาใจเหล่านักท่องเที่ยว ที่หาชมได้เฉพาะงานนี้
Fooditude Art Installations โดย แกร็บฟู้ด
ที่ตึกชัยพัฒนสิน งานแสดงแสงไฟที่สะท้อนเรื่องราวการเดินทาง เพื่อเสาะแสวงหาอาหารอร่อย เล่าเรื่องการสำรวจความสัมพันธ์ของผู้คน กับของอร่อยในยุคปัจจุบัน ผ่านการเดินทางตามหาแสงไฟ และแพทเทิร์นกราฟิกนำทาง โดยใช้พิกัดละติจูดและลองติจูดของสถานที่ตั้งร้านอาหารจริงๆ มาเป็นลวดลายในการสร้างผลงาน ส่วนหน้าไปรษณีย์กลาง พร้อมต้อนรับทุกคนเข้าสู่ Foodie Night Market โลกที่จะเติมเต็มความสุขของทุกคนด้วยความอร่อย รวมร้านอาหารบนแกร็บฟู้ด จากร้านดังทั่วประเทศไทย
Awakening Spirits โดย จอห์นนี วอล์กเกอร์
ที่ Yellow House ปากซอยนานา เยาวราช ร่วมฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และเพิ่มความสิริมงคลให้ชีวิตพร้อมเดินต่อด้วยวัตถุมงคล 8 อย่างตามความเชื่อของชาวจีน ได้แก่ มังกร เซียมซี โคมแดง ป่าไผ่มงคล ประตูวงพระจันทร์ ประทัด กระดาษฟู และพระจันทร์ ในรูปแบบศิลปะยุคใหม่ที่จะเปิดประสบการณ์ทั้งรูป กลิ่น และเสียง ส่วนที่ Warehouse 30 ก็ยังมี Step into the Lights ก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งแสงสู่ประตูกาลเวลาบานใหญ่ ที่จะพาคุณไปพบกับความสวยงามของย่านเจริญกรุง ที่กำลังกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และ Official Johnnie Walker Bars เครื่องดื่มที่รังสรรค์ขึ้นมาเฉพาะงานนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายไฮไลต์เด็ดที่ห้ามพลาด สำหรับการไปถ่ายรูปอัปขึ้นโซเชียลมีเดีย อาทิ The Catcher ที่ Patina Cafe สิ่งชั่วร้ายสามารถเข้าหาเราได้ทุกช่องทาง ทุกรูปแบบ แม้แต่ในโลกของความฝัน แต่เราก็มีวิธีป้องกันมันรูปแบบ ทุกช่องทาง แม้แต่ในโลกของความฝันเช่นกัน Dreamcatcher หรือตาข่ายดักฝันร้าย ชิ้นใหญ่นี้จะช่วยให้ทุกค่ำคืนนับจากนี้จะไม่มีฝันร้ายอีกต่อไป

ข้ามฝั่งถนนไปที่บ้านริมน้ำ ชมน้ำท่วมฟ้า ปลากินดาว คืนชีวิตซากต้นไม้จมน้ำจากริมแม่น้ำท่าจีนด้วยแสงสีและเทคโนโลยี AR เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของกลุ่มคนไกลตัว ที่อยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ที่เป็นทั้งความเดือดร้อน และช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นแบบจำใจ เดินไปต่อที่ โซง เฮงไถ่ ชมชิ้นงาน Sphere สวนเรืองแสงที่เต็มไปด้วยวัตถุทรงกลมอันเป็นศูนย์รวมแห่งพลังงานที่นํามาซึ่งความสงบนิ่งของจิตใจ และยังเปรียบเสมือนพลังงานชีวิต ที่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

ลองแวะไปชม Cycle Lantern เล่าเรื่อง กาลเวลาที่ผันผ่านย่อมพาชีวิตก้าวเดินไปข้างหน้า เหมือนลวดลายบนโคมผัด (โคมไฟล้านนา) ที่ปรากฏเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยเทคนิคภาพติดตา สะท้อนความเป็นไปของชีวิตที่ไม่มีวันหยุดเคลื่อนไหวตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน จากนั้นไป เรียกสติ (RE:SATI) สังเกตตัวตนและระลึกถึงปัจจุบันขณะ ปล่อยวางอดีตและอยู่กับตัวเองเป็นสำคัญ ผ่านพิธีกรรมโบราณที่ถูกประกอบขึ้นด้วยเทคโนโลยีร่วมสมัย เพื่อเรียกสติกลับมา ที่ดำปิ๊ดปี๋ Studio และอื่นๆ อีกมากมากมาย

พลาดไม่ได้! กับงานเทศกาลประจำปีดีๆ Awakening Bangkok จัดยาวไปจนถึง 3 เมษายน 2565 เวลา 17.00 -23.00 น. ณ ย่านเจริญกรุง–ตลาดน้อย–นานา–เยาวราช โดยมีรถตุ๊กๆ ของงานให้บริการเพื่อให้สามารถชมได้ครบทุกจุดแสดง อีกทั้งยังมีเว็บแอปพลิเคชัน Awakening Bangkok ไอเท็มเด็ด เพื่อให้รายละเอียดของศิลปินและแรงบันดาลใจในแต่ละชิ้นงาน พร้อมทั้งบอกระยะทางของจุดแสดงจากตำแหน่งที่อยู่ ข้อมูลร้านอาหารและบาร์ในบริเวณใกล้เคียง และที่สำคัญมีการแสดงให้เห็นถึงปริมาณคนชมงานในจุดต่างๆ เพื่อพิจารณาถึงการรักษาระยะห่างทางสังคมด้วย

สามารถดาวน์โหลดเว็บแอปพลิเคชัน Awakening Bangkok ติดตามความเคลื่อนไหว และกิจกรรมดีๆ ภายในงาน ได้ทางเว็บไซต์ www.timeout.com/bangkok/th หรือเฟซบุ๊ก: Time Out – กรุงเทพฯ