ฟิตอิน (Fit-in) หรือการนำเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ที่ออกแบบพิเศษให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ มาตกแต่งที่พักอาศัยแทนการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิลด์อิน กลายเป็นเทรนด์แต่งบ้านแบบใหม่! โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังแนวคิดนี้ก็คือ ‘คุณปรีชญา ชวลิตธำรง‘ หรือคุณนุ้ย ผู้ก่อตั้ง 10DK บริษัทออกแบบและตกแต่งบ้าน ที่นอกจากจะมีแพชชั่นที่อยากสลายปมให้ลูกค้า เธอยังมีเข็มทิศในการทำธุรกิจที่ชัดเจนว่า ต้องการทำธุรกิจบนวิถีแห่งความยั่งยืน จนเป็นจุดเริ่มที่ทำให้แนวคิดฟิตอิน ซึ่งเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ 10DK มาบรรจบกับความยั่งยืน และสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างทรงพลัง
เริ่มที่ความฟิตอิน ก่อนจะแตกหน่อเพื่อให้บรรจบกับความยั่งยืน
เมื่อครั้งที่ 10DK เปิดตัวแนวคิดและบริการแบบ Fit-in เรียกได้ว่าแนวคิดนี้มาช่วยปฏิวัติวงการตกแต่งห้องพักไปอย่างสิ้นเชิง เพราะการตกแต่งห้องแบบฟิตอิน ช่วยเปิดทางเลือกให้กับผู้พักอาศัย ที่มองหาความสวยงามที่ลงตัว ‘พอดี‘ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ออกแบบพิเศษ นอกจากจะลงตัวและเหมาะกับขนาดพื้นที่บ้านหรือห้องพักอาศัยแล้ว ยังมีจุดเด่นตรงที่สามารถตกแต่งและจัดวางใหม่ ในกรณีที่เจ้าของที่พักอาศัยอยากเปลี่ยนแปลงพื้นที่ เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่เปลี่ยนไปในอนาคตอีกด้วย
กระนั้น คุณนุ้ยก็รู้สึกว่า แม้โมเดลธุรกิจที่ทำอยู่ จะตอบโจทย์ลูกค้าและพันธมิตร รวมถึงเติบโตได้อย่างดีอยู่แล้วก็ตาม แต่แนวคิดฟิตอิน ของ 10DK น่าจะมีศักยภาพ ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ต่อสังคมได้มากกว่านี้ นั่นเป็นที่มาของการหันมาชูธงเรื่องความยั่งยืน แบบคิดจริง ทำจริง และกำลังสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจริงได้อย่างทรงพลัง
“อยากจะเปลี่ยนแนวคิดในการทำธุรกิจ หันมาเน้นความยั่งยืนมากกว่าตัวเลข ซึ่งตอนนั้นแนวคิดนี้เริ่มเป็นที่นิยมในต่างประเทศ แต่ในไทยยังไม่ค่อยมี ยิ่งถ้าเป็นบริษัทแนวออกแบบและตกแต่งบ้าน คือแทบไม่มีเลย จะมีก็แค่ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 10DK จึงถือเป็นบริษัทแรกๆ ในธุรกิจออกแบบและตกแต่งบ้านที่ชูธงเรื่องความยั่งยืน ก็ว่าได้“
ลงมือทำจริงเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบลงลึก
อย่างไรก็ตาม เวลาพูดถึงธุรกิจที่หันมาโฟกัสความยั่งยืน หลายคนอาจจะนึกถึงการทำกิจกรรมเพื่อสังคม หรือการเปลี่ยนมาใช้วัสดุทางเลือก แต่นิยามความยั่งยืนของ 10DK ลึกซึ้งกว่านั้น เพราะคุณนุ้ย ไม่ได้มองว่า การทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืน เป็นเพียงกลยุทธ์การตลาดแบบผักชีโรยหน้า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัท แต่มองในภาพใหญ่ ที่ครอบคลุมตั้งแต่สิ่งแวดล้อม ไปจนถึงคนที่อยู่ในซัพพลายเชนทั้งหมด
“หัวใจของการทำธุรกิจแบบยั่งยืน ไม่ได้หมายความเราต้องเป็นคนที่ตัวใหญ่ที่สุด แต่อาจจะเป็นคนตัวเล็กที่มีคุณภาพ รับผิดชอบกับตัวเอง เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมก็พอ” ดังนั้น เมื่อมีธงชัดเจนว่า จะเป็นบริษัทออกแบบตกแต่งบ้านที่ยั่งยืนที่สุด หลังจากมีโซลูชันที่แก้ Pain Point ให้ลูกค้าได้ตรงจุดแล้ว 10DK จึงต่อยอดธุรกิจ ด้วยการให้ความสำคัญใน 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่
- สนับสนุนชุมชน ให้ความสำคัญกับสิทธิของแรงงาน
- เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น
“ที่ผ่านมา 10DK พยายามลดการใช้สารที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้สารเคลือบไม้และสแบบสารระเหยต่ำ (Low VOCs) ซึ่งดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังสนับสนุนชุมชนด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของชุมชน ที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ และไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง“
ขณะเดียวกัน 10DK ยังสร้างงานและสร้างรายได้ให้ชุมชน ด้วยการทำงานร่วมกับชุมชน เช่น ให้ทีม 10DK ออกแบบลวดลายปลอกหมอนและผ้าคลุมเตียง จากนั้นนำไปให้กลุ่มกะเหรี่ยงบ้านหล่ายแก้วช่วยเย็บ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ก็เช่นกัน แทนที่เราจะเลือกนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากประเทศจีน ซึ่งมีราคาต่ำกว่ามากมาเสนอให้ลูกค้า 10DK เลือกใช้ช่างฝีมือในชุมชน โดยเรามีการดูแลตามมาตรฐานแรงงานและสิทธิมนุษยชน
ต่อยอดสู่การเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่แข็งแรงของสังคมและเศรษฐกิจ
มาถึงตรงนี้ น่าจะชัดเจนแล้วว่า การตกแต่งบ้านแบบฟิตอิน นอกจากจะมอบ ‘ทางเลือก‘ ซึ่งช่วยเติมเต็มความต้องการอันหลากหลายให้แก่ผู้พักอาศัยแล้ว ยังมอบ ‘ทางเลือก‘ อันยั่งยืนอย่างทรงพลังให้เกิดขึ้นแก่สังคมด้วย
สำหรับเป้าหมายอนาคต คุณนุ้ยทิ้งท้ายว่าอยากให้ 10DK เป็นบริษัทออกแบบตกแต่งบ้านที่ยั่งยืนที่สุด และเป็นบริษัทแรกที่คนที่อยากตกแต่งบ้านด้วย Fit-in solution นึกถึง และที่สำคัญที่สุด คือ อยากเป็นหนึ่งฟันเฟืองที่แข็งแรงของสังคมและเศรษฐกิจ
“ถึงเราจะโฟกัสเรื่องความยั่งยืน แต่แนวคิดในการทำธุรกิจ ที่เน้นความซื่อสัตย์ และรักษาคำพูดที่ให้กับลูกค้าของเรายังไม่เปลี่ยน เรายังให้ความสำคัญกับบริการหลังการขาย อะไรที่เราทำผิด เราจะไม่แก้ตัว แต่พร้อมแก้ไขและทำทุกงานให้ดีที่สุด เพราะเราคิดเสมอว่า สิ่งที่เราทำอาจจะเป็นผลงาน 1 ใน 100 ผลงานของเรา แต่มันคือบ้านหลังเดียวของเจ้าของบ้าน ที่ขาดไม่ได้คือเราตั้งใจดูแลพนักงาน และซัพพลายเออร์อย่างดี เพราะถึงไม่มีเรา เขาก็อยู่ได้ แต่ถ้าเราไม่มีเขา เราลำบาก”