The Matcha Tokyo คือร้านคาเฟ่ที่เชี่ยวชาญด้านมัทฉะ ที่นำเสนอมัทฉะชั้นยอดอย่างทันสมัย และเป็นกันเอง เพื่อหลอมรวมการดื่มมัทฉะให้เข้ากับชีวิตประจำวันของทุกคน จากมัทฉะสู่สุขภาพและความงามอย่างยั่งยืน โดยเป้าหมายของแบรนด์ ‘เดอะ มัทฉะ โตเกียว‘ คือ การนำพาสุดยอดมัทฉะ ออร์แกนิกไปหาผู้คนต่างๆ บนโลก เพื่อให้ได้เห็นรอยยิ้มและความสุขของทุกคนที่ได้ดื่มชาของเรา ล่าสุดหลังได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ณ สาขาแรกในเมืองไทยที่เอ็มสเฟียร์ ทางแบรนด์จึงต่อยอด ‘The Matcha Tokyo’ สาขา 2 ของกรุงเทพฯ ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ด้วยคอนเซ็ปต์ร้านที่มีความอบอุ่นและเป็นกันเอง
‘เดอะ มัทฉะ โตเกียว‘ ต้องการนำเสนอชาเขียวดั้งเดิมในมุมมองที่ต่างออกไปจากเดิม โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2018 ณ กรุงโตเกียว ย่านโอโมเตะซานโด (Omotesando) โดยนำเสนอ ‘มัทฉะ‘ เครื่องดื่มที่เป็นส่วนหนึ่งของพิธีชงชาดั้งเดิมของญี่ปุ่นมานานกว่าพันปี ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น ให้เข้ากับชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างเป็นกันเอง ในขณะเดียวกันก็ยังสานต่อและเพิ่มคุณค่าของมัทฉะ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสาขาที่พร้อมเสิร์ฟความสุขให้กับลูกค้าอยู่ที่ญี่ปุ่น 3 สาขา ได้แก่ โอโมเตะซานโด, ชิบูย่า และ ชินจุกุ) ฮ่องกง 7 สาขา, ฟิลิปปินส์ 1 สาขา และที่ประเทศไทย 2 สาขา (เอ็มสเฟียร์ และเอ็มโพเรียม)
สำหรับ ‘The Matcha Tokyo’ สาขา 2 สาขาเอ็มโพเรียม บนพื้นที่กว่า 100 ตร.ม. รังสรรค์เมนูที่เป็นไฮไลต์และครองใจผู้คนมาแล้ว โดยหัวใจหลักคือมัทฉะ ที่นับเป็นพระเอก โดยประโยชน์ของมัทฉะมีสารอาหารมากมายในด้านความงามและสุขภาพ และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ว่าเป็น Super Food โดยเฉพาะ สาร ‘คาเทชิน‘ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดน้ำตาลในเลือด และ ‘ธีอะนีน‘ ที่ช่วยบำรุงโลหิด ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดการดูดชับคาเฟอีน และยังเป็นสารที่ทำให้เกิดรสชาติอูมามิในชาอีกด้วย
ทั้งนี้ การดื่มมัทฉะก็เหมือนกับดื่มใบชาเข้าไปทั้งใบ นี่คือเหตุผลที่ทาง ‘เดอะ มัทฉะ โตเกียว‘ สนับสนุนฟาร์มใบชาออร์แกนิก และตั้งใจในการทำแบรนด์มัทฉะออร์แกนิก 100% ที่ดีต่อร่างกาย และสิ่งแวดล้อม โดยฟาร์มชาของ ‘เดอะ มัทฉะ โตเกียว‘ ตั้งอยู่ที่จังหวัดคาโกชิมา จังหวัดเกียวโต และจังหวัดชิสุโอกะทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น โดยทุกฟาร์มอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและมลพิษทางอากาศ ดูแลต้นชาทุกต้นด้วยน้ำแร่ธรรมชาติ และดินนุ่มฟูที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ปลอดสารเคมี ดูแลโดยผู้ปลูกที่มากประสบการณ์และมีใบอนุญาตในการปลูกชา
ผลิตภัณฑ์ของ ‘เดอะ มัทฉะ โตเกียว‘ และวัตถุดิบที่เลือกใช้มีใบอนุญาตในการปลูกชาออร์แกนิกรับรองจากองค์กร JAS Organic, USDA Organic และ Euro Leaf โดยเฉพาะไร่ที่จังหวัดคาโกชิมะได้รับการยอมรับจาก Rain Forest Organization ในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของเกษตรกรและเด็กๆ นอกจากการปลูกแบบออร์แกนิกแล้ว กรรมวิธีการผลิตที่รัดกุม เพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ก็เป็นที่เรื่องที่สำคัญมากสำหรับเรา เพราะเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการส่งออกอาหารที่ดี เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของคนทั้งโลก
ในขณะที่ความนิยมของมัทฉะกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายๆครั้ง คุณภาพของมัทฉะส่วนใหญ่ในท้องตลาด เน้นไปที่การผลิตให้ได้ในปริมาณมากๆ ไม่ใช่เน้นชาเขียวที่มีคุณภาพดี เราจึงใส่ใจและให้ความสำคัญกับคุณภาพของมัทฉะอย่างมาก ตั้งแต่ดินที่ใช้ปลูกต้นชา กระบวนการผลิตที่เน้นออร์แกนิกเป็นหลัก เพื่อประโยชน์ของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในความอร่อยของมัทฉะ ควบคู่กับสิ่งแวดล้อมแม้จะในอีก 100 ปีข้างหน้าก็ตาม




พื้นฐานของการปลูกชา
ใบชาที่ถูกเก็บช่วงฤดูใบไม่ผลิในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม เรียกว่าใบชาระยะแรก (Ichi-ban.cha ) เป็นชาที่มีคุณภาพสูงที่สุดของปี ด้วยรสหอมหวานของมัน ใบชาที่ถูกเก็บในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน หรือใบชาระยะที่สองหรือระยะที่สาม จะนิยมนำไปประกอบทำขนมหรือเมนูรังสรรค์ต่างๆ แทนเพราะความใบอวบและมีรสเข้มออกขมของมัน หลังจากพักต้นชาในฤดูหนาวไป ก็เริ่มลงปุ๋ยบำรุงประมาณเดือมกุมภาพันธ์ เพื่อเตรียมเก็บเกี่ยวรอบต่อไป โดยทาง ‘เดอะ มัทฉะ โตเกียว‘ จะใช้ Straight Matcha กับเมนูลาเต้ของแบรนด์ทุกแก้ว โดยใช้ใบชาระยะแรกในการชงเท่านั้น
