Onitsuka Tiger แบรนด์แฟชั่นสัญชาติญี่ปุ่นยังคงเดินหน้านำเสนอคอลเล็กชั่นร่วมสมัย ที่ผสมผสานแฟชั่นเข้ากับกีฬาและนวัตกรรมอันล้ำสมัย ธีมของคอลเล็กชั่นนี้คือ ‘ความมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น‘ ภายใต้การดูแลของครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ Andrea Pompilio คอลเล็กชั่นนี้ได้ผสมผสานรูปทรง จากนวัตกรรมเข้ากับมรดกตกทอด และแสดงให้เห็นถึงจุดสูงสุดของความงาม ผ่านสุนทรียศาสตร์ของการหักลบ ที่ขจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป
ซึ่งธีมนี้ได้ปรากฎให้เห็นอย่างต่อเนื่องในวิชวลของแคมเปญ ซึ่งทำให้ความมินิมัลลิสต์นั้นชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการตัดกันของการเทียบเคียงองค์ประกอบต่างๆ ที่มีความไม่เข้ากัน เช่น ภาพเงาและพื้นที่ว่าง ท้องฟ้าและสีของอาคาร ตลอดจนพื้นหลังแนวเรขาคณิตและรูปทรงกลม ยิ่งไปกว่านั้น ลูกบอลขนาดใหญ่ที่อยู่ๆ ก็ปรากฎขึ้นนั้นยิ่งดูเหมือนงานศิลปะที่ถูกจัดแสดงขึ้น
Andrea ได้อธิบายถึงแคมเปญนี้ไว้ว่า “เพื่อดึงความสนใจไปที่รายละเอียดของคอลเล็กชั่น รูปทรง และศิลปะแบบมินิมัลลิสต์ และเพื่อสร้างความคอนทราสต์ให้กับซิลูเอตอันสง่างามให้โดดเด่น เราจึงตั้งใจไม่ให้เห็นเหล่านางแบบและนายแบบแบบเต็มตัว และพื้นหลังก็ถูกทำให้ดูเรียบง่าย นอกจากนี้ความตัดกันระหว่างท้องฟ้าและลูกบอลขนาดใหญ่ ก็ถูกสร้างขึ้นราวกับว่ามันเป็นการติดตั้งงานอาร์ต โดยให้ความรู้สึกทางศิลปะ การสร้างพื้นที่ว่างให้เหมือนเป็นอาร์ตแกลลอรี่ เราสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเหล่านางแบบและงานศิลปะ“
คอลเล็กชั่นนี้ได้ถูกนิยามด้วยรายละเอียดต่างๆ ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าธรรมดาให้กลายเป็นงานดีไซน์ เสื้อผ้าทุกชิ้นผลิตในญี่ปุ่น ด้วยซิลูเอตที่พลิ้วไหวแต่ก็มีความกระฉับกระเฉง และความใส่ใจในรายละเอียด โดยเริ่มจากการปักโลโก้ด้วยด้ายแบบซิกแซก ตลอดจนการตกแต่งกุ๊นชายผ้า รูปทรงของร่างกายเป็นจุดโฟกัสของการพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ และได้รับการออกแบบใหม่ด้วยโครงสร้าง ที่หยิบยืมมาจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น ตัวอย่างเช่น เชือกดึงแบบยาว การเปลี่ยนเสื้อยืดผ้าจอเจียร์แบบโอเวอร์ไซส์ ให้กลายเป็นเสื้อปักลายนูน หรือกระโปรงที่ทำจากผ้าไนลอนญี่ปุ่น พร้อมการจับพลีทที่ชวนให้นึกถึงกางเกงฮากามะ เครื่องแบบของนักธนูคิวโด ในส่วนของรูปทรงกิโมโนนั้นก็มีปรากฏให้เห็นตลอดทั้งคอลเล็กชั่น ท่ามกลางรอยแยกของแขนเสื้อสตรีที่ยาวและกว้าง เหมือนกับกำลังกระพือปีกยามเคลื่อนไหว หรือที่เห็นได้อย่างชัดเจน ในรูปแบบของการคลุมผ้าขนหนูชายหาด ตกแต่งโลโก้ที่คลุมอยู่บนเสื้อกล้าม
Pompilio นั้นยังได้โฟกัสไปที่ส่วนด้านหลังของลุค ที่สูญเสียความเป็นสองมิติ เพื่อให้ได้มาซึ่งวอลลุ่มความเป็นสามมิติที่เหนือความคาดหมาย: นอกจากเชือกผูกที่ช่วยปรับซิลูเอต และชุดเดรสที่สามารถถอดแยกได้ กับแจ็คเก็ตที่สามารถใส่กับผ้าคลุม ที่หยิบยืมมาจากเทรนช์โค้ทแล้ว ดีไซเนอร์นั้นยังได้แนะนำชุดเดรสตัวเล็ก ที่มีช่องกระเป๋าติดอยู่ด้านหลังอีกด้วย สำหรับโทนสีที่ใช้ในคอลเล็กชั่นนี้ มีสีดำและสีขาวเป็นเหมือนสีหลัก ในการบรรยายเรื่องราวของคอลเล็กชั่นให้ดำเนินไป แต่ถูกแทรกขึ้นมาด้วยสีเหลืองและสีเขียวชิโซะอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีสันอันสดใสของใบโหระพาญี่ปุ่น (ใบชิโซะ)
ในส่วนของรองเท้าและแอคเซสเซอรี่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน รองเท้ารุ่นไอคอนิกอย่าง SERRANOTM นั้นถูกนำมาตกแต่งด้วยลายพิมพ์กราฟฟิก ที่ชวนให้นึกถึงรอยข่วนของเสือ และถูกปรับโฉมใหม่ จนเกิดเป็นรุ่น TIRRACKTM ในคอลเล็กชั่นนี้, รองเท้าแตะหนังที่ผลิตในญี่ปุ่นและได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าเซตตะ (seta) รองเท้ารุ่น SCLAWTM และ SCLAWTM MT นั้นมีรายละเอียดของรองเท้าไดรเวอร์ และถือเป็นรองเท้ารุ่นใหม่ของฤดูกาล ที่ถึงจะดูปราดเปรียวแต่ก็มีประสิทธิภาพสูง หมวกเบสบอลที่เป็นการผสมผสานองค์ประกอบ ของที่บังแดดที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้โดยทั่วไป แบบมีปีกหมวกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และสามารถสวมใส่ได้ทั้งสองด้าน กระเป๋าปักโลโก้แบรนด์และ Claw Stripes ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าโบว์ลิ่ง มีให้เลือก 3 ขนาด รวมไปถึงขนาดไมโคร
ในงานแฟชั่นโชว์ของคอลเล็กชั่นที่ถูกจัดขึ้นในช่วงมิลานแฟชั่นวีค ในเดือนกันยายน ปี 2022 มีหูฟังปรากฎขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของรันเวย์ลุค ที่เป็นผลงานการออกแบบร่วมกับแบรนด์ Bang & Olufsen ผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นที่เดนมาร์กในปีค.ศ. 1925 ซึ่งหลังจากงานแฟชั่นโชว์ทั้งสองแบรนด์ก็ได้ร่วมกันผลิตหูฟังพิเศษนี้มาวางจำหน่ายอีกด้วย
Onitsuka Tiger คอลเล็กชั่น Spring & Summer 2023 ซึ่งมี ‘ความมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น‘ จะมีวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2023 เป็นต้นไปที่ร้าน Onitsuka Tiger Global Flagship Store สยามสแควร์วัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.onitsukatiger.com/th/th-th/p/ss23