Pride Clinic Talk เกิดขึ้นมาจากพื้นฐานความเข้าใจ ในความต้องการของกลุ่ม LGBTQ+ อย่างแท้จริง และคำนึงถึงทุกมิติของสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจและสังคม บวกกับอยู่บนหลักการแพทย์ที่ถูกต้อง เพื่อให้กลุ่ม LGBTQ+ ได้เข้าถึงการบริบาลที่ครอบคลุมทุกมิติ และสามารถบรรลุเป้าหมายตามความต้องการของแต่ละบุคคล จึงได้เชิญวิทยากร 3 ท่าน มาให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้สนใจคือ…

นพ. เบญทวิช สุรศาสตร์พิศาล แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ครอบครัว Pride Clinic โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
คุณหมอเบญทวิชเริ่มงาน Pride Clinic Talk โดยให้ข้อมูลว่า Pride Clinic ได้ดำเนินการครบรอบ 1 ปี ปัจจุบันมี LGBTQ+ มาใช้บริการทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ โดยปัญหาสุขภาพที่แพทย์ได้ให้คำปรึกษามากที่สุดคือ ‘สุขภาพทางเพศ‘ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ของกลุ่ม LGBTQ+ ถูกเลือกปฏิบัติจากบุคลากรทางการแพทย์ ในการเข้ารับบริการทางสุขภาพรวมถึงสุขภาพเพศ รวมทั้งถูกตีตราจากสังคมว่า เป็นกลุ่มผู้ที่แพร่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ทำให้บุคคลหลากหลายทางเพศเข้าถึงบริการสุขภาพเพศอย่างยากลำบาก และต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังขาดแหล่งข้อมูล หรือสถาบันที่สามารถเป็นที่พึ่งพิง ในการให้คำปรึกษา ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามข้อมูลทางการแพทย์ ในเรื่องสุขภาพเพศของ LGBTQ+ ได้อย่างครบวงจร
ล่าสุด Pride Clinic จึงได้ขยาย service ด้าน ‘บริการสุขภาพทางเพศ‘ สำหรับบุคคลหลากหลายทางเพศ เพื่อเติมเต็มบริการที่มีอยู่เดิม ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากบริการด้านสุขภาพ โดยแบ่งเป็น 5 บริการหลักๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกด้านเกี่ยวกับสุขภาพทางเพศ ประกอบด้วย 1. การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี 2. การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ 3. การให้คำปรึกษาเรื่องเพศวิถี 4. การให้คำปรึกษาเรื่องรสนิยมทางเพศ ที่แตกต่างไปจากบรรทัดฐานทางสังคม และ 5. ปัญหาสุขภาพเพศในบุคคลหลากหลายทางเพศ โดยให้บริการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย และคุณภาพระดับสากล JCI (Joint Commission International) โดยคำนึงถึงเรื่องการรักษาความลับ และความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
โดยใช้ทีมแพทย์ชำนาญการ ที่มีความละเอียดอ่อนและสมรรถนะในการดูแล LGBTQ+ โดยเฉพาะ มีความรู้ทางการแพทย์ในเชิงลึก สามารถให้การบริการดูแลครอบคลุมในทุกมิติ อย่างครบวงจร รวมถึงในเคสที่มีความซับซ้อน โดยเรามีองค์ความรู้ทางการแพทย์ ที่อัพเดทตามเทรนด์ตลอดเวลา และอิงตาม Guideline ของต่างประเทศตามมาตรฐานสากล พร้อมด้วยมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ที่ได้รับการรับรองระดับสากล CAP LAB Certified ให้ผลการทดสอบที่แม่นยำรวดเร็วเชื่อถือได้

ดร. ณัชร สยามวาลา อาจารย์พิเศษและวิทยากรด้านสติระดับนานาชาติ
ดร. ณัชรได้แชร์ประสบการณ์ที่เคยมาใช้บริการที่ Pride Clinic ว่า เริ่มจากการหาข้อมูลที่มากเพียงพอทั้งในไทยและต่างประเทศ พอมีความรู้ที่แน่นในระดับหนึ่ง ก็มีการคุยกับครอบครัว เพื่อนฝูงและคนที่เรารัก จากนั้นก็เริ่มหาทีมแพทย์มืออาชีพที่มั่นใจได้ มาคอยดูแลตลอดกระบวนการข้ามเพศ โดย Pride Clinic ให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษาแนะนำ ฉีดฮอร์โมน รักษาความงาม ปรับรูปหน้า ลดหน้าอก กระชับผิวหนัง สลายไขมัน ฝึกเปลี่ยนเสียง ไปจนถึงการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ
ที่ผ่านมา…รู้สึกประทับใจการให้บริการของ Pride Clinic มาก ตั้งแต่ทีมแพทย์ แพทย์ด้านฮอร์โมนบำบัด, ศัลยแพทย์, วิสัญญีแพทย์ หรือแพทย์ดมยา ที่ช่วยให้ไม่เจ็บปวดมากในกระบวนการผ่าตัด, Nurse Navigator ที่ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด และนำทางผมไปสู่กระบวนการดูแลรักษาทุกขั้นตอนได้อย่างราบรื่น นักกายภาพบำบัดที่ดูแลการออกกำลังกาย การฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัด, นักโภชนาการที่ดูแลแนะนำสารอาหารที่เหมาะกับเรา จากประสบการณ์บอกได้ว่า Pride Clinic โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นที่แรกของประเทศไทยที่ให้บริการแบบ One Stop Service ครอบคุลมเกี่ยวกับสุขภาพทุกด้าน ตอบโจทย์ LGBTQ+ จริงๆ

คุณนภัส เปาโรหิตย์ Chief Marketing Officerโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
คุณนภัสได้แชร์ความคิดเห็นในมิติของผู้ที่มาใช้บริการว่า สิ่งที่สัมผัสได้คือความใส่ใจในทุกระบวนการของ Pride Clinic รวมถึงการยึดตามหลักปฏิบัติโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่มีการเก็บรักษาความลับของผู้เข้ารับบริการ และมีความเป็นส่วนตัว เพราะ LGBTQ+ บางรายอาจยังไม่ได้เปิดเผยหรือแสดงตัว และเป็นสิทธิของผู้รับบริการโดยชอบธรรม ซึ่งบำรุงราษฎร์ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งความเป็นส่วนตัว การเก็บรักษาความลับ รับรองได้ว่าที่นี่เป็นพื้นที่ปลอดภัย เราสามารถพูดคุยกับแพทย์ที่นี่ได้ในทุกๆ เรื่องได้อย่างสบายใจ ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องสุขภาพ ด้วยความเป็นตัวตนของเรา และยังได้รับคำตอบ และคำแนะนำที่ดีจนคาดไม่ถึง
และอีกข้อโดดเด่นของบำรุงราษฎร์ คือการให้การบริบาลที่มีคุณภาพตลอด journey ของผู้มารับบริการ เช่น Pride Clinic ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามผล ไม่ใช่เพียงแค่ผ่าตัดเสร็จแล้วกลับบ้าน แต่ผู้รับบริการจะพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล โดยมีทีมสหสาขาวิชาชีพดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ Top surgery อาจจะไม่ได้ต้องเป็นกลุ่ม LGBTQ+ แต่อาจรวมถึงกลุ่มผู้หญิงที่มีความเสี่ยง หรือกังวลเรื่องของมะเร็งเต้านมจากพันธุกรรม ซึ่งการทำ Top surgery ก็อาจจะเป็นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงได้เช่นกัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Pride Clinic โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เคาน์เตอร์ A ชั้น 16 อาคาร A (คลินิก) หรือโทร. 063-221 0957, 0-2 066 8888 หรือโทร. 1378