ด้วยความที่อาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นยังคงมาแรง ล่าสุดสามผู้บริหาร คุณเบ๊นซ์–ปณิธาน, คุณโบ๊ท–ปณิธิ และ คุณเพลน–ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ ตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นผู้ริเริ่มเทรนด์ แบบไม่ตามใคร (First mover) ได้ฤกษ์เปิดร้านใหม่ KAYAKI ภายใต้คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA (YAKI-ย่าง, ZAKANA-ปลา) กับร้านปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ยังไม่เคยมีในไทยมาก่อน ถือว่าเป็นเจ้าแรกในไทย!! ที่ตอบโจทย์สายปิ้งย่างของคนรักสุขภาพ

โดย คุณโบ๊ท–ปณิธิ กอบกุลสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท ไทยสากล เอสเตท จำกัด เล่าถึงที่มาของร้าน KAYAKI ว่า ย้อนกลับไปเมื่อมิถุนายนปีที่แล้วทางเราได้ไปเจอร้านนึงที่ประเทศญี่ปุ่น กินแล้วติดใจมากด้วยคอนเซ็ปต์และสไตล์ที่แปลกใหม่ รวมถึงรสชาติที่ชวนให้คิดถึงตอนเดินกลับโรงแรมแบบหยุดคิดไม่ได้ ร้านที่ว่านั่นเป็นร้านแนวปลาย่างที่ตัดเป็นชิ้นๆ พอดีคำ ไม่ใช่การย่างทั้งตัวหรือชิ้นใหญ่ตามที่เห็นในท้องตลาด ซึ่งจะมีชิ้นปลาหลายชนิดแต่ละส่วนของปลาแตกต่างกัน
KAYAKI เป็นร้านอาหารประเภทปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่นำเนื้อปลาเกรดซาซิมิระดับพรีเมียมสามารถทานดิบได้ โดยมีเนื้อปลาหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ปลาเนื้อแดง เทียบเท่ากับเนื้อวัว ซึ่งมีระดับไขมันของเนื้อปลาที่แตกต่างกัน อาทิ Maguro-มากูโระ (ปลาทูน่า) โดยนำ 3 ส่วนสำคัญของ
ปลาเนื้อแดงที่นิยมนำมาทำ YAKIZAKANA คือ
- Otoro (โอโทโร่): ปลาเนื้อที่มีมันแทรกระดับสูงสุด จะอยู่บริเวณท้องด้านล่างของปลา ละลายในปากมีรสชาติเข้มข้น หวานมัน ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลต์ ในเมนูโอมากาเสะหรือซูชิพรีเมียม ซึ่งเทียบเท่ากับเนื้อ A5
- Chutoro (ชูโทโร่): ปลาเนื้อที่มีไขมันระดับปานกลางพอดีทาน จะอยู่บริเวณหน้าท้องตอนบน มีไขมันแทรกเล็กน้อย เนื้อนุ่มละลายในปาก แต่ยังคงเท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลาที่ยังมีความแน่น ๆ มากกว่าโอโทโร่ ซึ่งเป็นส่วนที่คนนิยมทานมากที่สุด ซึ่งเทียบกับเนื้อ A4 – A3
- Akami (อากามิ): ปลาเนื้อแดงไม่ติดมัน จะลีนที่สุดของตัวปลา อยู่บริเวณกลางลำตัว เป็นส่วนของกล้ามเนื้อของปลาที่ใช้ว่ายน้ำ มีไขมันน้อย เนื้อสัมผัสมีความแน่น นุ่ม เทียบเท่ากับเนื้อสันใน
ปลาเนื้อขาว เปรียบเสมือนเนื้อไก่ มีความนุ่มของเนื้อปลาเมื่อกัดเข้าไปแต่ละคำยังคงได้เท็กซ์เจอร์ของเนื้อปลาอยู่ โดยการแล่เนื้อปลาแบบฟินเลต์ซึ่งจะแตกต่างจากการแล่เพื่อทานเป็นซาซิมิหรือเทปปัน โดยจะหั่นเป็นแนวเฉียง 30–40 องศา ต้องใช้มีดที่คมหั่นเพียงครั้งเดียวให้ติดหนัง เพื่อเวลาย่างไฟหนังปลาจะช่วยจะทำให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น รวมถึงจะทำให้ปลาสุกไว เนื้อปลาไม่แตกเวลาย่าง ปลาขาวที่นิยมนำมาย่าง อาทิ Madai-มาได (ปลากะพงแดงญี่ปุ่น), Kinmedai-คินเมได (ปลากะพงแดงตาโต), Hamachi-ฮามาจิ (ปลาหางเหลือง)
อาหารทะเล ที่จะช่วยเบรกระหว่างรับประทานเนื้อปลา และยังเป็นเมนูเสริมสำหรับคนที่รักซีฟู้ดอีกด้วย อาทิ Aka ebi-อะกาเอบิ (กุ้งแดงญี่ปุ่น), Hotate-โฮตาเตะ (หอยเชลล์) และ ปลาหมึก
คุณเพลน–ปวิตรา กล่าวเสริมว่า “ความพิเศษในการทานเนื้อปลาแบบไม่ปรุง จะได้รสชาติความหวานจากเนื้อปลารวมถึงเท็กเจอร์ของเนื้อปลา แต่ปลาบางชนิดจะต้องนำมาดรายเอจ (Dry-aged) ก่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของปลา เพื่อดึงรสชาติของเนื้อปลาออกมา ซึ่งการดรายเอจเป็นเทคนิคของคนญี่ปุ่นที่มีมานานตั้งแต่สมัยเอโดะ (ปี 1603–1868) โดยเฉพาะปลาเนื้อขาว ซึ่งจะทำให้เนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาว
อย่างที่ทราบกันดีว่าคนญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมและพิธีการในการรับประทานอาหารในแบบฉบับของคนญี่ปุ่น เราจึงมีการเทรนด์พนักงานให้มาย่างเนื้อปลาโดยเฉพาะ พร้อมเสิร์ฟให้ทานทีละคำ เนื่องจากปลาแต่ละชนิดจะรับประทานด้วยความสุกที่แตกต่างกันไป รวมถึงต้องคุมอุณหภูมิและเวลาให้เหมาะพอดี ทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นปรุงพิเศษจากทางร้าน เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องปรุงและน้ำซอสเอาไว้จิ้มทานคู่กัน ปลาทุกชิ้นจะเสิร์ฟมาแบบมีเดียมแรร์คือ เนื้อสัมผัสภายนอกจะมีความสุกนิดๆ หอมกลิ่นสโมคเบา ๆ บนผิวของเนื้อปลา แต่ยังได้ความปลาดิบข้างใน ซึ่งคงรสชาติความหวานของเนื้อปลาอยู่เป็นเนื้อสัมผัสที่แปลกใหม่
เมื่อได้ที่แล้วจะวางไว้บนข้าวญี่ปุ่น เพื่อให้น้ำมันจากเนื้อปลาแทรกซึมเข้าไปยังเม็ดข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มความหอมก่อนจะทานคู่กับเครื่องเคียง อาทิ เกลือมะนาว, วาซาบิ, ซอสสูตรพิเศษต่าง ๆ ของทาง KAYAKI เพื่อเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น โดยพนักงานจะคอยแนะนำว่าปลาชนิดไหนทานคู่กับอะไร ที่จะช่วยชูความอร่อยให้กับคำนั้น ๆ เรียกว่านี่เป็นการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคที่เข้ามารับประทานในร้านของเรา” คุณปวิตรา กล่าวทิ้งท้าย
โดยสามารถสั่งเป็นเซ็ตที่มาหลากหลายเมนูในจานเดียว ซึ่งมีทั้งหมด 3 เซ็ต ได้แก่
- เซ็ต SEIKAI 6 ชิ้น ได้แก่ Chutoro, Hamachi, Salmon, Aka ebi, Ika, Madai ราคา 890 บาท
- เซ็ต KAIYO 7 ชิ้น ได้แก่ Chutoro, Hotate, Akami, Aka ebi, Salmon, Ika, Madai ราคา 1,290 บาท
- เซ็ต KAYAKI 8 ชิ้น ได้แก่ Chutoro, Hotate, Akami, Aka ebi, Kinmedai, Ika, Madai, Otoro Suki ราคา 1,790 บาท
- Set KAIYO และ KAYAKI สามารถอัปเกรด จาก Akami เป็น Toro Bomb (ข้าวหน้า Chutoro, Uni, Ikura) ในราคา 690 บาท โดยทุกเซ็ตจะมาพร้อม สลัด ข้าว ซุป และของหวาน
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งเป็นแบบอลาคาสเพิ่มความอร่อยได้อีกด้วย ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่น ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานคอนเทมโพรารีและโมเดิร์นอย่างลงตัว โอบล้อมด้วยสวนญี่ปุ่นกลางสุขุมวิท 49 ที่เรียบหรู โปร่งโล่ง สบายตา เหมือนรับประทานมื้อพิเศษนี้ในร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ
โดยสามารถสัมผัสประสบการณ์ คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA ปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสุดพรีเมียมนี้ได้ โดยวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2568 จะเปิดให้บริการเป็น วันแรก!! โดยเปิดเป็น 2 รอบ คือ รอบเที่ยง 11:00-14:30 น. และ รอบเย็น 17:00 – 22:00 น. ที่ร้านKAYAKI โครงการ YARD 49 ซอยสุขุมวิท 49 ที่เดียวกับ Kay’s, KANORI, Day by Kay’s สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook: Kayaki, IG: Kayaki.Thailand